7 มารยาทการเข้าร่วมงานศพของญี่ปุ่นที่คุณควรรู้

งานศพของญี่ปุ่นถือเป็นงานที่มีพิธีรีตองต้องปฏิบัติตามมากมาย เพื่อแสดงความเคารพต่อดวงวิญญาณที่ได้ล่วงลับไป ดังนั้นหากคุณได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานศพของญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะกังวล แต่เราสามารถเตรียมตัวกันได้อย่างถูกต้อง ไปลองดูกันเลย
Oyraa

1. ควรใส่อะไรไปงานศพญี่ปุ่น?

buritora / Shutterstock.com

เนื่องจากงานศพในญี่ปุ่นคือโอกาสที่จะทำให้คุณได้แสดงความเคารพและกล่าวอำลาต่อผู้ที่จากไปเป็นครั้งสุดท้าย สีที่แสดงความหม่นหมองอย่างสีดำจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับแสดงความเคารพต่อผู้เสียชีวิตรวมถึงครอบครัวของเขา นอกจากนี้คนญี่ปุ่นยังให้ความสำคัญกับการเลือกชุดที่ดูดีที่สุด อย่างผู้ชายก็แต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดเรียบร้อยและชุดสูทสีดำสนิท พร้อมด้วยเนกไทสีดำ ส่วนผู้หญิงก็ควรแต่งกายด้วยชุดเดรสสีดำที่ไม่โชว์เรือนร่างมากเกินไป หรือกิโมโน หรือชุดสูท

ในส่วนของเครื่องประดับจะเป็นสิ่งที่มีหรือไม่มีก็ได้ แต่ถ้าอยากใส่เครื่องประดับ ไข่มุกนับเป็นตัวเลือกที่เยี่ยมและเป็นมาตรฐานสำหรับงานศพญี่ปุ่น เพราะไม่ว่าจะเป็นสร้อยไข่มุกหรือต่างหูไข่มุกต่างก็เป็นสัญลักษณ์ของ “ความบริสุทธิ์ของวิญญาณมนุษย์”

สิ่งของอื่นๆ ที่คุณนำติดตัวไปในงานศพก็ควรเป็นสีดำเช่นกัน รวมทั้งร่ม กระเป๋า และรองเท้า สรุปง่ายๆ ก็คือไม่ควรใส่อะไรที่มีสีสันสดใสซึ่งจะทำลายบรรยากาศความอึมครึมของงานศพที่ญี่ปุ่นนั่นเอง

2. ควรนำอะไรไปงานศพญี่ปุ่นบ้าง

Lia_t / Shutterstock.com

ในช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้าแบบนี้ คุณคงจะอยากมอบอะไรสักอย่างให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตเพื่อที่จะแสดงถึงความห่วงใยและมิตรภาพ เงินช่วยงานศพ (koden) ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากพิธีศพในญี่ปุ่นนั้นมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่อย่างไรก็ตามการมอบเงินช่วยงานศพจะต้องใส่ในซองเฉพาะ ซึ่งสามารถซื้อได้ตามร้านเครื่องเขียน ร้าน 100 เยน หรือร้านสะดวกซื้อ ซองดังกล่าวจะมีลักษณะเป็นซองสีขาว มีเชือกสีดำและขาวผูกเป็นเงื่อนโดยมีปลายชี้ขึ้น ระวังอย่าสับสนกับซองสีแดงขาวที่จะใช้ในงานมงคลนะคะ

ซองสำหรับเงินช่วยงานศพจะมีซองอยู่ด้านในอีกชั้น ซึ่งจะต้องใส่เงินในซองด้านในนี้ ส่วนจำนวนเงินขึ้นอยู่กับว่าเราใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้เสียชีวิตมากแค่ไหน ยิ่งใกล้ชิดมากยิ่งควรใส่มาก โดยปกติจำนวนเงินที่ควรให้จะอยู่ที่ประมาณ 5,000 ถึง 30,000 เยน นอกจากนี้เลขคี่ยังมีความสัมพันธ์กับงานอวมงคล จำนวนที่ใส่จึงควรเป็นเลขคี่ และไม่ควรใส่จำนวนที่มีเลข 4 เพราะในภาษาญี่ปุ่นเลข 4 นั้นออกเสียงเหมือนกับคำว่าความตาย

หลังจากใส่เงินในซองด้านในแล้ว คุณควรที่จะเขียนจำนวนเงินที่ใส่ลงไปบนหน้าซองด้านใน แล้วเขียนชื่อที่อยู่ของคุณที่ด้านหลังซอง จากนั้นจึงนำซองเงินนั้นใส่ในซองใหญ่ที่มีเชือกตกแต่งด้านนอกอีกที การเขียนข้อมูลที่ว่าไปจะช่วยให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตจัดระเบียบข้อมูลเงินช่วยงานศพที่เขาได้รับได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

Koden in a fukusa | PIXTA

นอกจากนี้ ยังมีธรรมเนียมในการห่อซองเงินช่วยงานศพในผ้าที่เรียกว่า “fukusa” ซึ่งจะช่วยไม่ได้ซองยับหรือเปื้อน สีที่เหมาะสมสำหรับ fukusa คือสีดำ น้ำตาล หรือม่วง และผ้า fukusa นี้สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้า การห่อซองใน fukusa นั้นมีขั้นตอนวิธีการที่เฉพาะเจาะจง ดังนั้นควรจะปรึกษาคนญี่ปุ่นหากคุณไม่รู้วิธีห่อนะคะ

3. สิ่งที่จะได้พบในพิธีเคารพศพ (Otsuya)

SAND555UG / Shutterstock.com

โดยปกติงานศพของญี่ปุ่นจะแบ่งเป็นสองส่วน คือ พิธีเคารพศพ (otsuya) ซึ่งจะจัดในคืนก่อนหน้างาน และงานในวันจริง ถ้าคุณเป็นเพื่อนที่ไม่ได้สนิทชิดเชื้อกับผู้เสียชีวิตมาก คุณอาจจะเข้าร่วมเพียงพิธีเคารพศพนี้ก็ไม่ถือเป็นการเสียมารยาทแต่อย่างใด พิธีเคารพศพจะเป็นช่วงเวลาที่ครอบครัว ญาติ และเพื่อนๆ ของผู้ที่จากไปมารวมตัวกันโดยปกติจะกินเวลาราว 1-2 ชั่วโมง และเป็นการปลอบประโลมจิตใจที่เศร้าหมองจากการสูญเสียโดยบทสวดมนต์จากพระสงฆ์ การเข้าไปในงานขณะที่พระกำลังสวดอยู่นั้นเป็นการรบกวนพิธี ดังนั้นอย่าลืมถามเวลาเริ่มพิธีเคารพศพและไปเข้าร่วมให้ตรงเวลานะคะ

เมื่อคุณไปถึงที่สถานที่จัดงาน จะมีการจัดให้คุณได้เข้าแถวเพื่อเคารพศพและแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต โดยจะมีการแบ่งแถวเป็น 2 แถวได้แก่แถวสำหรับสมาชิกในครอบครัวและแถวสำหรับเพื่อนร่วมรุ่น เพื่อนร่วมงาน หรือเพื่อนร่วมชมรมต่างๆ โดยจะมีป้ายสำหรับทั้งสองแถวที่เขียนว่า “โกคาโซกุซามะ” (ご家族様) ซึ่งหมายถึงแถวสำหรับครอบครัว และ “โกยูจินซามะ” (ご友人様) ซึ่งหมายถึงแถวสำหรับเพื่อน ไม่ต้องกังวลถ้าอ่านตัวอักษรญี่ปุ่นไม่ค่อยได้นะคะ เพราะคุณสามารถถามผู้เข้าร่วมงานคนอื่นๆ ให้เขาบอกว่าคุณควรไปเข้าแถวไหนได้ค่ะ

การลุกออกจากงานในระหว่างที่พระกำลังสวดอยู่ไม่ใช่เรื่องต้องห้าม แต่ก็เป็นเรื่องที่คนญี่ปุ่นไม่ค่อยทำกัน นอกจากนี้หากลุกออกจากงานแล้วจะดึงความสนใจของผู้เข้าร่วมงานคนอื่นๆ ก็ไม่ควรจะลุกออกไป ปกติแล้วพระจะสวดมนต์ด้วยเสียงดังกังวานเพื่อขับกล่อมวิญญาณของผู้เสียชีวิตให้ไปสู่ชีวิตหลังความตายอย่างสงบ ดังนั้นคุณควรเตรียมตัวนั่งฟังบทสวดมนต์ยาวๆ โดยอยู่นิ่งๆ ไม่กระสับกระส่ายจนเกินไป

4. สิ่งที่จะได้พบในพิธีศพ

SAND555UG / Shutterstock.com

พิธีศพมักจะจัดขึ้นหนึ่งวันหลังจากพิธีเคารพศพ และจะมีพิธีรีตองมากกว่า ถ้าคุณได้เข้าร่วมพิธีศพ คุณจะต้องมีส่วนร่วมในพิธีการหลายๆ อย่างที่จะมีขึ้นเพื่อให้เกียรติผู้เสียชีวิต หนึ่งในพิธีที่พบได้บ่อยคือพิธีเครื่องหอม (oshoukou) ซึ่งเป็นการไหว้ดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิต คุณจะต้องเดินไปที่แท่นบูชา หยิบผงเครื่องหอมขึ้นมาหยิบมือหนึ่ง แล้วแตะเข้าที่หน้าผาก ก่อนจะโรยลงไปในอีกภาชนะหนึ่งที่เรียกว่าชามเปลวเพลิง ซึ่งอาจจะต้องทำซ้ำอีกหนึ่งหรือสองครั้งขึ้นกับนิกายของศาสนาพุทธที่เป็นผู้จัดการพิธีศพ

นอกจากนี้ คุณจะมีโอกาสได้มองร่างไร้วิญญาณในโลงศพและกล่าวคำอำลาเป็นครั้งสุดท้ายในช่วงท้ายของพิธีศพนี้ โดยจะมีตัวแทนมอบดอกไม้ (มักจะเป็นดอกลิลลี่และดอกเบญจมาศ) ให้กับคุณในขณะที่กำลังต่อแถวอยู่ร่วมกับผู้ร่วมพิธีคนอื่นๆ เมื่อถึงคราวของคุณ ให้วางดอกไม้ลงในโลงศพ และคุณยังสามารถเขียนข้อความเตรียมไว้ล่วงหน้าและใส่มันลงโลงศพไปด้วย

อย่างไรก็ตามหากคุณรู้สึกไม่สบายใจที่จะเข้าไปใกล้โลงศพ คุณสามารถมองดูพิธีการจากระยะไกลได้โดยสำรวม และบอกกับผู้ที่เข้ามาเชิญเข้าไปใกล้โลงศพว่าขอกล่าวอำลากับผู้เสียชีวิตในใจเท่านั้น โดยปกติคนญี่ปุ่นจะเข้าไปยืนดูโลงศพ แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องรู้สึกกดดันที่จะต้องทำในสิ่งที่รู้สึกไม่สบายใจ

5. สิ่งที่จะได้พบหลังจากพิธีศพ

NKM999 / Shutterstock.com

หลังจากพิธีศพ ก็จะเป็นการไปเยือนเมรุเผาศพ ซึ่งคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่เลือกที่จะใช้วิธีการเผาศพสำหรับการจัดการร่างผู้เสียชีวิต โดยเมื่อพิธีศพสิ้นสุด โลงศพจะถูกขนย้ายด้วยรถบรรทุกศพโดยเฉพาะ (reikyusha) มักจะเป็นรถลีมูซีนสีดำที่มีหลังคาเป็นสไตล์ญี่ปุ่น สมาชิกครอบครัวของผู้เสียชึวิตจะนั่งไปในรถคันอื่น ส่วนญาติๆ จะนั่งไปในรถบัส การเผาศพเป็นกิจกรรมสำหรับสมาชิกในครอบครัวและญาติพี่น้องของผู้ที่จากไปเท่านั้น แต่หากคุณเป็นเพื่อนที่สนิทมากๆ ของผู้เสียชีวิต คุณอาจจะอยากขอครอบครัวของเขาติดตามไปด้วยก็เป็นได้

สิ่งหนึ่งที่อาจจะทำให้คุณตกใจ คือก่อนที่จะออกรถ คนขับรถบรรทุกศพจะบีบแตรค้างไว้เป็นเวลา 5 – 10 วินาที เพื่อประกาศว่าผู้เสียชีวิตกำลังจะจากโลกนี้ไปแล้ว ที่ประเทศไทยไม่มีพิธีการเช่นนี้อาจจะทำให้ตกใจได้ ดังนั้นควรเตรียมใจไปสำหรับสิ่งนี้ด้วยนะคะ

6. สิ่งที่จะได้พบที่เมรุเผาศพ

Yellow Cat / Shutterstock.com

หากคุณแต่งงานกับคนญี่ปุ่น และมีโอกาสได้เข้าร่วมงานศพของสมาชิกครอบครัว หมายความว่าการมีส่วนร่วมของคุณจะมีความสำคัญสำหรับพิธีการเผาศพ ในกรณีนี้คุณจะได้รออยู่กับสมาชิกครอบครัวชาวญี่ปุ่นในห้องสำหรับรอที่จัดไว้เฉพาะตอนที่ร่างของผู้เสียชีวิตกำลังถูกเผาอยู่

หลังจากการเผาศพเสร็จสิ้น คุณจะต้องเดินเป็นแถวเรียงหนึ่งตามสมาชิกในครอบครัวคนอื่นไปยังห้องที่โลงศพจะถูกนำออกมาจากเตาเผา จากนั้นจะได้รับตะเกียบพิเศษ และคุณจะต้องคีบกระดูกของผู้เสียชีวิตออกมาจากโลงเพื่อใส่ในโกศ เมื่อทุกคนทำจนครบแล้ว พนักงานของเมรุเผาศพจะเป็นคนรวบรวมชิ้นส่วนกระดูกที่เหลือใส่ในโกศและปิดผนึกมัน

ในญี่ปุ่น จะมีเพียงกระดูกเท่านั้นที่จะถูกเก็บไว้ ส่วนเถ้าอื่นๆ จะไม่มีการเก็บ ซึ่งอาจจะแตกต่างจากหลายๆ วัฒนธรรมที่มีการเก็บเถ้าจากการเผาศพค่ะ

7. สิ่งที่ต้องทำก่อนกลับบ้าน

takayan/ Shutterstock.com

ไม่ว่าคุณจะเข้าร่วมเพียงพิธีเคารพศพหรือจะเข้าร่วมพิธีศพด้วย คุณจะต้องเริ่มด้วยการเข้าแถวและมอบเงินช่วยงานศพให้กับผู้ที่ทำหน้าที่ต้อนรับก่อนเข้าไปในพิธี ซึ่งในขั้นตอนนี้คุณจะได้รับถุงที่เรียกว่า kodengaeshi ซึ่งประกอบด้วยเกลือ ชา และขนม ซึ่งเป็นของขวัญตอบแทนสำหรับความห่วงใยที่คุณมีให้แก่ครอบครัวผู้สูญเสีย

ตามวัฒนธรรมของญี่ปุ่นที่ยึดถือเรื่องการแลกน้ำใจไมตรีเป็นสำคัญ สำหรับเกลือที่คุณได้รับมาในถุงนั้นจะใช้สำหรับการปัดเป่าเคราะห์ โดยคุณจะต้องปาเกลือข้ามไหล่ข้างใดข้างหนึ่งไปยังด้านหลังเพื่อไล่วิญญาณหรือสัมภเวสีที่อาจจะติดตามคุณมาออกไปก่อนจะก้าวเท้ากลับเข้าบ้าน

ส่งท้าย

งานศพเป็นช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้าของผู้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ และต้องรับรู้ถึงการจากไปของบุคคลอันเป็นที่รัก ดังนั้น การทำความเข้าใจกับมารยาทงานศพของญี่ปุ่นจะช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวผู้เสียชีวิต เมื่อมีเหตุให้ต้องเข้าร่วมงานศพของญี่ปุ่น คุณคงอยากจะไปงานพร้อมกับเพื่อนหรือคนรู้จักที่จะช่วยแนะนำว่าต้องทำอย่างไรในขั้นตอนไหน แต่หากสถานการณ์ไม่เป็นใจและคุณต้องเผชิญหน้ากับมันคนเดียว เราก็หวังว่าบทความนี้จะช่วยแนะนำขั้นตอนและสิ่งที่ควรทำเพื่อให้การเข้าร่วมงานศพญี่ปุ่นและการกล่าวคำอำลาแก่ผู้เสียชีวิตเป็นครั้งสุดท้ายของคุณเป็นไปได้อย่างราบรื่นค่ะ

ขอขอบคุณภาพจาก akiyoko / Shutterstock.com

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊กได้เลย !

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

Oyraa
0 Shares: