เคล็ดลับ สัมภาษณ์งานอย่างไรให้ชนะใจบริษัทญี่ปุ่น!

Oyraa

สิ่งสำคัญที่สุดในกระบวนการหางานในประเทศญี่ปุ่น คือ การสัมภาษณ์งาน ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำเคล็ดลับกฎเหล็กในการสัมภาษณ์งานกับบริษัทญี่ปุ่น รวมถึงบอกจุดสำคัญที่ต้องใส่ใจในระหว่างการสัมภาษณ์ และปิดท้ายด้วยคำแนะนำการเตรียมตัวก่อนสัมภาษณ์จริง ไปดูกันเลย!

วันสัมภาษณ์ต้องพกอะไรไปบ้าง?

การสัมภาษณ์งาน เป็นโอกาสดีที่เราจะได้แสดงศักยภาพเด่นๆ ของเราออกมาเพื่อให้บริษัทที่เล็งไว้หันมาสนใจในตัวเรา นอกจากการเตรียมตอบคำถามและฝึกพฤติกรรมที่ไม่คุ้นชินแล้ว การเตรียมของสำคัญให้พร้อมก็เป็นอีกอย่างที่สำคัญมากๆ หากคุณลืมของสำคัญในวันสัมภาษณ์งาน คุณอาจจะว้าวุ่นหรือเลิ่กลั่กจน ทำให้ผู้สัมภาษณ์ไม่ประทับใจคุณได้ ดังนั้น เรามาดูเอกสารและสิ่งของที่ต้องนำติดตัวไปในวันสัมภาษณ์งานบริษัทญี่ปุ่น เพื่อป้องกันความผิดพลาดจากการลืมของกัน!

บัตรผู้พำนัก หรือ ไซริวการ์ด (在留カード)
เป็นบัตรที่ใช้สำหรับตรวจสอบที่อยู่, ระยะเวลาพำนักในญี่ปุ่น, สถานภาพการพำนัก, วันหมดอายุของบัตร, รวมไปถึงการอนุญาตสำหรับทำกิจกรรมที่อยู่เหนือสถานภาพการพำนัก

ใบรับรองคุณสมบัติการทำงาน (就労資格証明書)
เป็นเอกสารที่ใช้สำหรับตรวจสอบคุณสมบัติในการทำงานในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงประเภทของการทำงานที่กฎหมายรับรอง

ผลการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น (日本語能力試験の結果等、日本語能力を証明する書類)
หากบริษัทต้องการตรวจสอบการสื่อสารภาษาญี่ปุ่นของผู้สมัคร ผลการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นจะเป็นเอกสารสำคัญมาก ซึ่งเอกสารนี้จะแตกต่างจากการตัดสินความสามารถในการสนทนาภาษาญี่ปุ่นตอนให้สัมภาษณ์ เพราะผลการสอบสามารถใช้วัดระดับการเขียนและการอ่านได้ด้วย ดังนั้น อย่าลืมนำติดตัวไปในวันสัมภาษณ์ด้วยนะ

นอกจากเอกสารเหล่านี้ ก็อย่านำลืมสิ่งที่บริษัทบอกให้เตรียมเป็นพิเศษไปด้วย แล้วก็อย่าลืมเอกสารแสดงตัวตน เช่น พาสปอร์ต กับใบประวัติส่วนตัวและประวัติการทำงานฉบับสำเนา (ในกรณีที่คุณยังไม่เคยส่งฉบับจริงก็ขอให้นำฉบับจริงติดตัวไปด้วย)

บริษัทยังอาจจะขอให้คุณกรอกแบบสอบถามก่อนการสัมภาษณ์ หรือสอบถามเกี่ยวกับการคัดเลือกรอบต่อไป ดังนั้น อย่าลืมเอาอุปกรณ์เครื่องเขียน รวมถึงสมุดบันทึกไปด้วย

การลืมของอาจทำให้การสัมภาษณ์ไม่ราบรื่น หรืออาจทำให้หมดสิทธิ์ในการเข้าสัมภาษณ์ได้ แล้วสิ่งที่เราพยายามเตรียมตัวมาก็จะสูญเปล่า ดังนั้น อย่าลืมใส่ใจในจุดนี้และเตรียมพร้อมให้ดีก่อนถึงวันจริง!

คำถามที่มักจะเจอในการสัมภาษณ์ (และวิธีการรับมือ)

สิ่งสำคัญในการสัมภาษณ์นั้นแตกต่างกันไปในแต่ละบริษัท รวมไปถึงวิธีการสัมภาษณ์ จำนวนครั้ง และเนื้อหาของคำถาม บางบริษัทก็มีการสัมภาษณ์แบบกลุ่มร่วมด้วย แต่ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำคำถามพื้นฐานที่บริษัทญี่ปุ่นทั่วไปชอบใช้ พร้อมชี้ประเด็นที่ควรตอบ ไม่ว่าจะเป็นการสัมภาษณ์รูปแบบไหนก็ใช้ได้!

1. กรุณาแนะนำตัว
การแนะนำตัวนั้น ต้องมองหน้าผู้สัมภาษณ์ แล้วก็พูดให้ชัดถ้อยชัดคำ การพยายามใช้ภาษาญี่ปุ่นให้ถูกต้องที่สุดเท่าที่ทำได้จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับผู้สัมภาษณ์ได้ ดังนั้น คุณควรเตรียมการแนะนำตัวคร่าวๆ สัก 2-3 นาทีเอาไว้ให้พร้อมก่อนเข้าวันจริง

2. กรุณาบอกเหตุผลที่คุณเลือกบริษัทนี้
หากคุณได้รับคำถามเช่นนี้ ควรตอบเหตุผลที่คุณสนใจในตัวบริษัท ประสบการณ์ส่วนตัว รวมไปถึงคุณสมบัติที่เหมาะสมกับตำแหน่งที่คุณสมัคร ให้ผู้สัมภาษณ์เข้าใจได้ง่าย นอกจากนี้ หากคุณตอบรวมไปถึงข้อมูลของบริษัท ให้ผู้สัมภาษณ์ทราบได้ว่าคุณทำการบ้านมา ก็อาจจะกลายเป็นคะแนนบวกได้!

3. คุณทำงานอะไร แบบไหนมาก่อนหน้านี้
ในการตอบคำถามนี้ ควรพูดถึงหน้าที่ที่ได้รับในงานเดิม บอกว่าคุณมีผลกับงานอย่างไรบ้าง รวมถึงอธิบายผลงานและความสำเร็จของงานที่ทำมาทั้งหมดอย่างคร่าวๆ

4. ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณคืออะไร
ไม่ใช่เพียงแค่เล่าประสบการณ์ความสำเร็จเท่านั้น แต่คุณยังควรกล่าวด้วยว่า ในการไปถึงเป้าหมายที่คุณตั้งไว้นั้น คุณมีวิธีการอย่างไร พยายามทำอะไรบ้าง สิ่งสำคัญของข้อนี้ คือ การแสดงให้ผู้สัมภาษณ์เห็นว่าคุณพยายามอย่างเต็มที่ แถมยังมีทัศนคติและความสามารถในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อีกด้วย!

5. กรุณาเล่าสถานการณ์ที่คุณผิดพลาดในงานเก่า
หากเป็นคำถามเช่นนี้ คุณไม่ควรบอกแค่ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่ต้องบอกด้วยว่าคุณมีวิธีการจัดการกับปัญหานั้นอย่างไร แล้วได้เรียนรู้อะไรจากความผิดพลาดในครั้งนั้นบ้าง นอกจากนี้ หากคุณสามารถบอกได้ด้วยว่า หลังจากรู้สาเหตุของความล้มเหลวในตอนนั้นแล้ว คุณจะนำบทเรียนที่ได้มาปรับใช้กับการทำงานต่อไปได้อย่างไร ก็จะกลายเป็นจุดน่าสนใจที่ทำให้ผู้สัมภาษณ์คิดว่าคุณมีความสามารถในการแก้ไขปัญหา มีความสามารถในการวิเคราะห์เหตุและผล และยังมีความทะเยอทะยานอีกด้วย

6. กรุณาบอกเหตุผลที่คุณตัดสินใจมาญี่ปุ่น/คุณมีกำหนดการอยู่ที่ญี่ปุ่นถึงเมื่อไร
สามารถอธิบายง่ายๆ ได้เลยว่า ทำไมคุณมีความสนใจในญี่ปุ่น อยากอยู่ที่ญี่ปุ่นหรือว่าอยากทำงานในญี่ปุ่น หากมีแพลนจะอยู่ญี่ปุ่นยาวๆ ก็ควรบอกบริษัทไปให้ชัดเจน เพื่อที่ทางบริษัทจะได้พิจารณาการจ้างงานระยะยาว ซึ่งก็เป็นผลดีกับการสมัครงานด้วย!

7. มีคำถามอะไรเพิ่มเติมหรือไม่
บริษัทญี่ปุ่นนิยมถามคำถามนี้กับเราระหว่างการสัมภาษณ์ ซึ่งเป็นคำถามที่ต้องการให้เราตั้งคำถามกลับด้วยความสมัครใจ ผู้สัมภาษณ์จะพิจารณาความตั้งใจและความสามารถในการสื่อสารของเราผ่านคำถามข้อนี้ ดังนั้น ก่อนที่จะเข้าสัมภาษณ์ ก็ควรเตรียมหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทและเนื้อหาของงานให้ละเอียดก่อนเข้าสัมภาษณ์ จะได้มีคำถามไปถามเขาอย่างแน่นอน!

ซึ่งคำถามที่จะถามผู้สัมภาษณ์ ก็ต้องพิจารณาให้ดี หากเป็นคำถามประเภทที่เปิดเว็บไซต์บริษัทไปก็เจอ หรือว่าอ่านประกาศสมัครงานก็รู้ ผู้สัมภาษณ์ก็จะมองว่าเราไม่ได้เตรียมตัวหาข้อมูลมาก่อน สามารถทำให้คะแนนตกลงได้

นอกจากนี้ หากถามอะไรที่ผู้สัมภาษณ์อธิบายไปแล้วระหว่างการสัมภาษณ์ ก็จะถูกมองว่าไม่ได้ตั้งใจฟัง ไม่มีสมาธิก็เป็นได้ ดังนั้น คุณควรพยายามหลีกเลี่ยงคำถามเหล่านี้
หากคุณสามารถแสดงความกระตือรือร้นและแรงจูงใจในงาน โดยการถามคำถามที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจได้ ก็จะกลายเป็นคะแนนบวกให้กับตัวคุณเอง!

ทักษะภาษาญี่ปุ่นและทักษะในการสื่อสารมีความจำเป็นมากกับการทำงานในบริษัทญี่ปุ่น ดังนั้น ถึงแม้คุณจะเป็นชาวต่างชาติ ก็หนีไม่พ้นที่ผู้สัมภาษณ์จะต้องตัดสินทักษะเหล่านี้ การสัมภาษณ์งานในภาษาที่ไม่ใช่ภาษาแม่นั้น อาจจะมีบ้างที่พูดไม่ออก คิดคำศัพท์ไม่ออก แต่การเตรียมคำตอบคร่าวๆ ไปก่อน จะช่วยให้คุณผ่อนคลายขึ้น และสามารถแสดงจุดเด่นของตัวเองออกมาได้

ประเด็นที่ต้องใส่ใจเมื่อตอบคำถามสัมภาษณ์งาน

ต่อไป เราจะมาแนะนำจุดควรระวังในการตอบคำถาม เพื่อสร้างความประทับใจที่ดีให้แก่ผู้สัมภาษณ์

พยายามใช้ภาษาญี่ปุ่นให้ถูกต้อง และใช้ภาษายกย่อง (เคโกะ) ในการตอบ!
การสมัครงานในบริษัทญี่ปุ่น เขาไม่ได้ดูแค่ความสามารถและความเชี่ยวชาญเท่านั้น แต่ยังต้องมองไปถึงทักษะการสื่อสารภาษาญี่ปุ่นอีกด้วย แม้ว่าคุณจะไม่จำเป็นต้องตอบด้วยภาษาญี่ปุ่นที่สมบูรณ์แบบ แต่ผู้สัมภาษณ์ก็จะดูว่าคุณใช้ภาษาให้ถูกต้องในการตอบคำถามหรือไม่ ดังนั้น เวลาจะพูดอะไร ก็ใช้ภาษาสุภาพและภาษายกย่องในการตอบกันดีกว่า

นอกจากนี้ การใช้คำลงท้ายหลังประโยคอย่างฟุ่มเฟือย หรือใช้คำประเภท เอตโตะ (えっと) หรือว่า อาโนะ (あの~) ในระหว่างพูดก็อาจจะทำให้ผู้ฟังรู้สึกฟังยากขึ้น และทำให้ผู้สัมภาษณ์ไม่ประทับใจการตอบของเราได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้คำเหล่านี้ ลองพยายามฝึกใช้ภาษาสุภาพและภาษายกย่องทุกๆ วัน เพื่อให้คุ้นเคยกับการใช้คำเหล่านี้กันเถอะ!

ตอบคำถามด้วยรอยยิ้ม และพูดช้าๆ
หากเราเครียด น้ำเสียงและสีหน้าก็อาจจะดูเกร็งขึ้น บางทีก็พูดโดยที่ไม่มองหน้าคู่สนทนา หรือพูดเสียงเบา ทำให้ถูกมองว่าไม่มีความสามารถในการสื่อสารก็เป็นได้
ดังนั้น เวลาเข้าสัมภาษณ์ก็อย่าลืมยิ้มแย้ม มองหน้าผู้สัมภาษณ์ แล้วพยายามตั้งใจพูดเพื่อให้ผู้ฟังรับสารได้อย่างง่ายดายที่สุดด้วย

ตอบคำถามให้ถูกต้องและเข้าใจง่าย!
หากตอบคำถามยาวเกินไป แถมไม่มีบทสรุปปิดท้าย ผู้สัมภาษณ์อาจจะไม่ได้แค่งงว่าคุณต้องการสื่ออะไร แต่อาจจะถึงกับมองว่าคุณไม่มีความคิดที่เป็นระเบียบ และไม่มีความเข้าใจเพียงพอก็ได้ ดังนั้น ไม่ว่าจะตอบคำถามอะไร ก็พยายามตอบให้ชัดและเข้าใจง่ายที่สุด

ทาง tsunagu local ให้สตาฟชาวญี่ปุ่นของเราตอบแบบสอบถามว่า “ในการสัมภาษณ์งานบริษัทญี่ปุ่นนั้น สิ่งที่ยากที่สุดคืออะไร?” ซึ่งคำตอบที่มากเป็นอันดับหนึ่งก็คือ การใช้ภาษาสุภาพและภาษายกย่องนั่นเอง ถึงแม้ว่าคุณจะไม่มีปัญหาในการสื่อสารภาษาญี่ปุ่นในชีวิตประจำวันและสามารถอ่านเขียนได้ตามปกติ แต่เวลาสัมภาษณ์ที่คุณตื่นเต้น การใช้ภาษาสุภาพและภาษายกย่องจะเป็นเรื่องที่ยากมาก หลายๆ คนอาจจะไม่ถนัดการใช้ภาษาเช่นนี้ แต่หากคุณฝึกใช้ทุกวันตั้งแต่วันนี้จนคุ้นชินแล้วก็จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้

เมื่อรู้คำถามคร่าวๆ ที่อาจจะถูกถามในการสัมภาษณ์แล้ว ก็ลองเตรียมคำตอบที่มีการใช้ภาษาสุภาพและภาษายกย่องกันดูนะ!

กฎในการสัมภาษณ์งานที่ญี่ปุ่น?

บริษัทญี่ปุ่นมีมารยาทและกฎในการสัมภาษณ์งานที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ บทความนี้จะมาแนะนำกฎและมารยาททั่วไปให้ทุกคนได้รู้จักกัน

หากไม่ได้กำหนดชุดในการสัมภาษณ์ ให้สวมสูทสีดำ
ในบางประเทศ อาจจะเป็นเรื่องโอเคที่จะสวมชุดไปรเวทไปสัมภาษณ์งาน แต่ที่ญี่ปุ่นนั้น หากบริษัทไม่ได้กำหนดชุดมาให้ ก็ควรเพลย์เซฟด้วยการสวมสูทสีดำหรือกรมท่า ตัวสูทต้องสะอาด หากมีภาพลักษณ์ที่ดูจริงใจและซื่อสัตย์แล้ว ก็จะช่วยให้การสัมภาษณ์น่าประทับใจยิ่งขึ้น บางครั้งก็สามารถสวมชุดที่ไม่ใช่ชุดสูทได้ แต่ต้องเป็นชุดที่สะอาดสะอ้าน และทำผมให้เรียบร้อย
นอกจากนี้ คุณยังต้องแต่งหน้าเป็นมารยาทพื้นฐาน แต่หากแต่งหน้าหนาเกินไป หรือใส่น้ำหอมที่มีกลิ่นฉุนก็อาจจะกลายเป็นคะแนนติดลบได้ ดังนั้น เน้นลุคธรรมชาติๆ ดีกว่า!

ไม่ไปสาย
การรักษาเวลานั้นเป็นคอมมอนเซนส์ของสังคมญี่ปุ่น ดังนั้น ไปจัดการลงทะเบียนที่สถานที่สัมภาษณ์สัก 10 นาทีก่อนถึงเวลาจริงกันเถอะ

การศึกษาเส้นทางล่วงหน้าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก คุณควรหาสถานีรถไฟที่ใกล้บริษัทที่สุดรวมถึงถนนหน้าบริษัทไปก่อน เพื่อป้องกันความผิดพลาด เช่น หาทางออกจากสถานีรถไฟไม่เจอ หรือ ใช้เวลามากกว่าที่คิด โดยเฉพาะในโตเกียว ย่านบริษัทในโตเกียวนั้นมีตึกเรียงรายอยู่มากมาย หากคุณไปครั้งแรกก็อาจจะหลงทางได้ ดังนั้นจึงควรระวังในจุดนี้!

หากคุณกังวลมาก เราขอแนะนำให้ลองไปที่บริษัทสักครั้งก่อนสัมภาษณ์ก็เป็นเรื่องที่ดีและหากจำเป็นจะต้องไปสายเนื่องจากการจราจรติดขัดต่างๆ ก็ควรติดต่อกับทางบริษัท บอกเหตุผลของการไปสาย แล้วก็บอกระยะเวลาที่คาดว่าจะสายด้วย

เคาะประตู 3 ครั้งก่อนเข้าห้องสัมภาษณ์
หากได้ยินเสียงตอบรับจากข้างใน พูดว่า ชิซึเรชิมัส (失礼いします) ที่แปลว่า ขอรบกวนหน่อยครับ/ค่ะ แล้วค่อยเข้าห้อง เมื่อเข้าไปแล้ว อย่าเพิ่งตกใจ ค่อยๆ ทำกิริยาให้เป็นปกติ เวลาจะปิดประตูห้อง ต้องหันหน้าเข้าหาประตูแล้วค่อยๆ ปิดเบาๆ เสมอ

เข้าห้องแล้วอย่าลืมทักทาย!
เมื่อเข้าไปในห้องแล้ว ไปยืนข้างๆ เก้าอี้ แล้วพูดว่า

Honjitsu wa ojikan wo itadaki arigatougozaimasu. 〇〇 to moushimasu. Yoroshikuonegaiitashimasu.

(本日はお時間をいただき、ありがとうございます。〇〇と申します。よろしくお願いいたします แปลว่า ขอบคุณที่สละเวลาให้ในวันนี้ ผม/ดิฉันชื่อ 〇〇 ครับ/ค่ะ ขอความกรุณาด้วยครับ/ค่ะ) อย่างมั่นใจไปเลย! พูดจบแล้วก็อย่าลืมโค้งด้วย 1 ครั้ง บางครั้งคุณอาจจะต้องนั่งรอผู้สัมภาษณ์ในห้องก่อน แต่เมื่อผู้สัมภาษณ์เดินเข้ามาแล้ว ก็ลุกขึ้นแล้วทักทายตามด้านบนเลย

ไม่นั่งจนกว่าผู้สัมภาษณ์จะบอกให้นั่ง
เมื่อผู้สัมภาษณ์พูดว่า “เชิญครับ/ค่ะ” ก็ค่อยนั่งลงได้ เมื่อนั่งเก้าอี้ ก็นั่งให้เต็มเก้าอี้แล้วยืดหลังให้ตรง มือสองข้างประสานกันไว้ที่หน้าตัก เท้าก็วางขนานกันให้เรียบร้อย ผู้ชายนั่งแยกขาเล็กน้อย การกอดอกหรือไขว่ห้างนั้นถือว่าผิดมารยาท เพราะฉะนั้นระวังกันด้วย

อย่าลืมกล่าวลาก่อนออกจากห้อง
เมื่อสัมภาษณ์เสร็จแล้ว อย่าลืมกล่าวขอบคุณด้วยประโยคว่า Honjitsu wa ojikan wo itadaki arigatou gozaimashita (本日はお時間をいただき、ありがとうございました) ที่แปลว่า ขอขอบคุณสำหรับเวลาในวันนี้ครับ/ค่ะ พร้อมกับโค้งด้วย จากนั้นก็เก็บเครื่องเขียนและเอกสารใส่กระเป๋า ลุกขึ้นยืน ก่อนเดินออกจากห้องก็กล่าวประโยค Shitsurei itashimasu (失礼いたします) หรือ ขออนุญาตนะครับ/นะคะ แล้วโค้ง 1 ครั้ง เสร็จแล้วค่อยเดินออกจากห้องไป

การหางานในประเทศญี่ปุ่นนั้น ถึงแม้ว่าขั้นตอนการสัมภาษณ์จะเป็นขั้นที่สำคัญมาก แต่บางครั้งก็อาจเกิดความสับสนกับวัฒนธรรมบริษัทที่เป็นเอกลักษณ์ได้ หรือไม่ก็อาจจะตื่นเต้นกับการใช้ภาษาที่ไม่คุ้นเคย ทำให้ไม่สามารถดึงศักยภาพของตนเองออกมาได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม หากพยายามเตรียมตัวไปล่วงหน้าแล้ว ก็จะสามารถวางใจกับการสัมภาษณ์ได้มากขึ้น ทำให้ดึงจุดเด่นและความน่าสนใจของตัวเองออกมาได้! สิ่งที่สำคัญที่สุดในการสัมภาษณ์งาน คือ การแสดงความเป็นตัวของตัวเองออกมาให้ได้ ดังนั้น มาลองใช้บทความนี้เป็นข้อมูลอ้างอิง แล้วพยายามไปกับการหางานในประเทศญี่ปุ่นกันเถอะ!

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

Oyraa
0 Shares: