8 วิธีเอาตัวรอดในช่วง “คะฟุงโช” (โรคแพ้เสกรดอกไม้) ของญี่ปุ่น

fight-kafunsho-hay-fever-in-japan-p57267489_M
หากคุณมีอาการจามไม่หยุด น้ำมูกไหล ตาบวมน้ำ หรือเวียนหัว โปรดทราบว่านี่คืออาการของ “คะฟุงโช” หรือ “โรคไข้ละอองฟาง” ในญี่ปุ่น เป็นโรคภูมิแพ้อันตรายที่มาตามฤดูกาลและสามารถเป็นกันได้ทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น นอกจากนี้ หากคุณมีอาการขึ้นมาสักครั้งก็อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพการใช้ชีวิตประจำวันของคุณอย่างรุนแรงด้วย แต่ถึงแม้จะเป็นโรคที่รับมือได้ค่อนข้างยาก เราก็มีคำแนะนำเกี่ยวกับ 8 แนวทางการรับมือ ที่รวมถึงการแนะนำผลิตภัณฑ์ ตัวเลือกในการรักษา และยารักษาโรคที่จะช่วยให้คุณสามารถเอาตัวรอดจากโรคไข้ละอองฟางญี่ปุ่นได้มาฝากด้วย
Oyraa

“โรคคะฟุงโช” คืออะไร?

kafunsho japan hay fever pollen allergy

คะฟุงโช (ชื่อทางการ: ไข้ละอองฟาง) มาจากคำว่า “คะฟุง” ที่แปลว่าละอองเกสร และ “โช” ที่แปลว่าอาการ ใช้เรียกโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ตามฤดูกาล หรือที่คนมักจะเรียกกันติดปากว่า “โรคแพ้เกสรดอกไม้”

โรคนี้มีสาเหตุหลักมาจากละอองเกสรของต้นไม้ญี่ปุ่น 2 สายพันธุ์ ได้แก่ “สุงิ” (Sugi ต้นสนซีดาร์ญี่ปุ่น) และ “ฮิโนกิ” (Hinoki ต้นสนไซเปรสญี่ปุ่น) ที่กระจายตัวอยู่ในอากาศ การถ่ายละอองเรณูนี้จะทำให้คุณมีอาการจามอย่างหนักไปตลอดเดือนกุมภาพันธ์จนถึงพฤษภาคม

อาการของคะฟุงโช หรือ โรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้

what are symptoms of pollen allergy kafunsho japan

อาการที่พบบ่อยในโรคคะฟุงโช ได้แก่

  • คันจมูก น้ำมูกไหล คัดจมูก หายใจติดขัด
  • มีอาการจาม
  • น้ำตาคลอ เบ้าตาแดง
  • คันตา ตาบวมแดง มีน้ำตาไหล
  • คันปากหรือคอ
  • คันผิวหนัง
  • มีอาการไอ
  • มีอาการอ่อนเพลีย

โรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้ต่างจากไข้หวัดธรรมดาตรงที่จะมีอาการคันที่จมูก คอ และดวงตา ซึ่งเป็นอาการหลักที่ทำให้เราสามารถแยกแยะโรคไข้หวัดทั่วไปจากโรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้ได้ ข้อแตกต่างอีกประการหนึ่งคือไข้หวัดเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ส่วนโรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้นั้นเป็นปฏิกิริยาที่เกิดจากการแพ้ละอองเกสร ซึ่งส่งผลให้มีสีน้ำมูกที่แตกต่างกัน โดยผู้แพ้ละอองเกสรจะมีน้ำมูกสีใส

หากคุณมีอาการไอ โดยเฉพาะไอแห้งก็อาจเป็นสัญญาณของโรคแพ้เกสรดอกไม้ ส่วนการไอแบบมีเสมหะนั้นมักพบเห็นในโรคหวัด ณ จุดนี้ เราขอแนะนำให้คุณไปพบแพทย์และทำการทดสอบอาการแพ้จะดีที่สุด

สาเหตุที่คนส่วนใหญ่มักประสบปัญหาจากโรคคะฟุงโชในญี่ปุ่น

why do so many people suffer from hay fever kafunsho in japan

สิ่งที่น่าสนใจ คือ โรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้ไม่เคยเป็นโรคที่พบได้ทั่วไปในญี่ปุ่นมาก่อน จนกระทั่งปี 1960 ซึ่งมีการออกนโยบายปลูกป่าหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ทำให้มีการปลูกต้นสนซีดาร์และสนไซเปรสญี่ปุ่นจำนวนมาก เมื่อเติบโตขึ้น พวกมันก็ผลิตละอองเกสรปริมาณมหาศาลเมื่อรวมกับการขยายตัวของเมืองก็ทำให้เกิดเป็นโรคภูมิแพ้ละอองเกสรที่สร้างความเสียหายต่อวิถีชีวิตของผู้คนได้ง่ายขึ้น เนื่องจากคอนกรีตและยางมะตอยเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดการหมุนเวียนของละอองเกสรที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้ในญี่ปุ่น

จากผลการสำรวจโรคระบาดเกี่ยวกับโรคจมูกอักเสบที่เกิดจากภูมิแพ้ ซึ่งจัดทำโดยสมาคมโสตศอนาสิกวิทยาแห่งญี่ปุ่นก็ทำให้เราได้ทราบว่าโรคร้ายนี้ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของชาวญี่ปุ่นในยุคปัจจุบันถึง 40% อีกทั้งยังมีแนวโน้มจะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนที่ยังไม่แสดงอาการในตอนนี้ก็อาจมีอาการกำเริบได้ในอนาคตด้วย

อย่างไรก็ตาม นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะต้องประสบปัญหาโรคคะฟุงโชกันเสมอไป เพราะยังมีอยู่สองสามวิธีที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ อีกทั้งยังมีเทคนิคและการรักษาที่จะช่วยให้คุณสามารถต่อสู้กับโรคนี้และรอดพ้นจากฤดูคะฟุงโชในญี่ปุ่นได้ด้วย

วิธีแก้ปัญหาโรคคะฟุงโชในญี่ปุ่น

is anything being done to solve japan kafunsho problem

รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังดำเนินการตามแนวทางต่างๆ เพื่อหาวิธีรักษาโรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้อย่างมีประสิทธิภาพ และทางนักวิจัยเองก็กำลังเข้าใกล้ความสำเร็จไปอีกขั้น ด้วยยารักษาโรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ ยาตัวนี้สามารถรักษาผู้เป็นภูมิแพ้ให้หายขาดได้ราว 30% และบรรเทาอาการผู้ป่วยได้ถึง 50% นอกจากนี้ รัฐบาลยังดำเนินการลดระดับละอองเกสรด้วยการโค่นและตัดแต่งต้นไม้ พร้อมทั้งสร้างความตระหนักให้แก่ประชาชนที่ประสบกับโรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้ด้วยการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของโรค วิธีป้องกันที่เป็นประโยชน์ และการคาดการณ์ปริมาณละอองเกสร

จากความพยายามในการลดระดับละอองเกสรนี้ องค์กรวิจัยและจัดการไม้ของญี่ปุ่นได้พัฒนาต้นซีดาร์สายพันธุ์ใหม่ๆ ขึ้นมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ที่มีละอองเกสรน้อย พันธุ์ที่ไม่มีละอองเกสรเลย รวมไปถึงต้นสนไซเปรสที่มีปริมาณละอองเกสรต่ำ ซึ่งทางสำนักงานป่าไม้ของญี่ปุ่นก็กำลังดำเนินการปลูกต้นสนซีดาร์พันธุ์ละอองเกสรน้อยจากฝีมือมนุษย์นี้แทนต้นซีดาร์ธรรมชาติในป่าไปอย่างช้าๆ โดยมุ่งเน้นบริเวณรอบพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นในโตเกียวและโอซาก้า อีกทั้งยังมีนโยบายเพิ่มความต้องการไม้สนซีดาร์ญี่ปุ่นด้วยเทคนิคใหม่ที่ทำให้ไม้มีความทนทานมากพอสำหรับการก่อสร้างอาคารสูง 10 ชั้นด้วย

วิธีหลีกเลี่ยงและเอาตัวรอดจากโรคคะฟุงโช

1. ตรวจสอบปริมาณละอองเกสร

kafunsho seasonal allergies in japan check pollen levels

อย่างที่โบราณได้กล่าวเอาไว้ว่า ‘กันไว้ดีกว่าแก้’ ขั้นตอนแรกที่จะทำให้คุณสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างราบรื่นในฤดูของคะฟุงโชจึงเป็นการตรวจสอบระดับของละอองเกสรนั่นเอง หากวันไหนมีระดับละอองเกสรสูง ก็ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการออกไปข้างนอกหากไม่จำเป็น งดการตากผ้านอกบ้าน แล้วก็ควรปิดหน้าต่างให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วย

เราขอแนะนำให้คุณตรวจสอบจากในเว็บไซต์ tenki.jp และใช้ตัวติดตามละอองเกสรในญี่ปุ่นแบบเรียลไทม์นี้ เพื่อที่คุณจะสามารถติดตามสถานการณ์ของละอองเกสรได้ นอกจากนี้ ก็ขอให้ระวังเอาไว้ด้วยว่าปริมาณละอองเกสรในอากาศมักจะเพิ่มสูงขึ้นในวันที่อากาศอุ่น วันแรกที่มีแดดออกหลังวันฝนตก และวันที่มีแดดจัดแต่ลมแรงและอากาศแห้ง

2. กำจัดละอองเกสร

clea pollen allergy kafunsho in japan

หนึ่งในวิธีป้องกันไม่ให้ละอองเกสรเล็ดลอดเข้ามาในบ้าน คือ ติดตั้งเครื่องกรองอากาศหรือเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรอง HEPA (แผ่นกรองอากาศระดับอนุภาคที่มีคุณภาพสูง) ซึ่งสามารถกรองละอองเกสรได้ ตรงจุดนี้ ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำว่าควรเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่มีค่า CADR (อัตราการส่งผ่านอากาศบริสุทธิ์) ขั้นต่ำที่ 300 อีกทั้งยังควรเลือกรุ่นให้เหมาะกับขนาดห้อง และตรวจสอบให้แน่ใจด้วยว่ามีเครื่องหมาย AHAM (สมาคมผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้าน) หรือไม่ โดยหนึ่งในเครื่องฟอกอากาศยอดนิยมในตลาด ได้แก่ Sharp HEPA Air Purifier

นอกจากนี้ วิธีทำความสะอาดที่ดีที่สุดซึ่งคุณอาจคาดไม่ถึงก็คือ การใช้ไม้ถูพื้นหรือผ้าชุบน้ำหมาดๆ ทำความสะอาดละอองเกสรภายในบ้าน เพราะเครื่องดูดฝุ่นและไม้ปัดฝุ่นทั่วไปอาจทำให้ละอองเกสรฟุ้งกระจายได้ แต่หากยังต้องการใช้เครื่องดูดฝุ่น ก็ควรซื้อรุ่นที่มีแผ่นกรอง HEPA แบบปิดสนิท ซึ่งจะช่วยกักเก็บละอองเกสรเอาไว้ในถุงสุญญากาศอย่างปลอดภัย และควรทำความสะอาดให้บ่อยขึ้นในช่วงฤดูละอองเกสรด้วย

อีกหนึ่งวิธีอันเรียบง่าย (แต่มีประสิทธิภาพ) ในการกำจัดละอองเกสรที่ก่อให้เกิดโรคคะฟุงโชก็คือ การตากผ้าในที่ร่มเพื่อไม่ให้ละอองเกสรมาเกาะเสื้อผ้า แต่ในกรณีที่คุณซักผ้าผืนใหญ่ที่จำเป็นจะต้องตากกลางแจ้งอย่างฟูกนอน ก็อย่าลืมใช้ “โฮชิฟุคุโระ” (干し袋) หรือถุงสำหรับตากผ้าคลุมไว้ให้เรียบร้อยด้วย

3. สวมเสื้อผ้าที่เหมาะสมสำหรับฤดูนี้

what to wear during kafunsho season pollen allergy mask

ในช่วงฤดูคะฟุงโชของญี่ปุ่น การสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมก็เป็นวิธีรับมือง่ายๆ ที่ได้ผลดีเช่นกัน คุณสามารถเริ่มจากวิธีง่ายๆ แต่มีประสิทธิภาพอย่าการสวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องออกไปข้างนอก เพราะหน้ากากนั้นจะช่วยดักจับละอองเกสรเพื่อไม่ให้ไปรบกวนระบบทางเดินหายใจ หน้ากากที่ขึ้นชื่อเรื่องดักจับละอองเกสรมีดังนี้:

  • PITTA Mask หน้ากากดีไซน์ทันสมัย มีเอกลักษณ์ด้วยวัสดุที่ทำมาจากโพลียูรีเทนที่สามารถดักจับละอองเกสรได้
  • PM2.5 超快適マスク (หน้ากาก PM 2.5) หน้ากากที่องค์กรด้านสุขภาพแนะนำและยอมรับว่าสามารถดักจับละอองเกสรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • 花粉を水に変えるマスク (Kafun wo Mizu ni Kaeru Masks) หน้ากากชนิดนี้ก็เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ละอองเกสรดอกไม้ในญี่ปุ่นเช่นกัน เพราะเป็นหน้ากากที่ใช้นวัตกรรมของปฏิกิริยาเคมีที่จะเปลี่ยนละอองเกสรและสิ่งสกปรกต่างๆ ให้กลายเป็นน้ำซึ่งสามารถมอบความชุ่มชื้นให้กับผู้ใช้และดีต่อสุขอนามัยไปในเวลาเดียวกัน

นอกจากนี้ เพื่อความปลอดภัยอีกระดับเมื่อต้องออกไปเผชิญกับโรคคะฟุงโช ประเทศญี่ปุ่นก็ได้พัฒนาแว่นครอบดวงตาสำหรับป้องกันโรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้โดยเฉพาะ เพื่อกันไม่ให้ละอองเกสรเข้าไปสัมผัสดวงตา และป้องกันไม่ให้คุณขยี้ตาเมื่อเกิดอาการคัน คุณสามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป เช่น Bic Camera, JINS, Zoff

สุดท้ายนี้ หากคุณมีอาการโรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้แล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้สวมเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายเนื้อเรียบและผ้าใยสังเคราะห์ เนื่องจากผ้าเหล่านี้จะดึงดูดละอองเกสรได้น้อยกว่า แต่แน่นอนว่าก็อาจจะมีละอองเกสรบางส่วนมาติดได้อยู่ดี ดังนั้น เราจึงขอแนะนำให้เปลี่ยนชุดทันทีที่กลับถึงบ้านและรีบอาบน้ำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

4. ป้องกันละอองเกสรที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้

ญี่ปุ่นมีผลิตภัณฑ์อำนวยความสะดวกที่ช่วยป้องกันละอองเกสรได้อยู่หลายชนิด เช่น สเปรย์ป้องกันสารก่อภูมิแพ้ที่ช่วยให้ละอองเกสรที่ลอยไปมาไม่มาเกาะบนผิวหนังและเสื้อผ้า วิธีใช้ก็เพียงฉีดสเปรย์ลงไปบนเสื้อผ้า หน้ากากอนามัย และพื้นที่ต่างๆ ภายในบ้านเพื่อกำจัดละอองเกสร ไรฝุ่น และขนสัตว์ที่เป็นสารก่อภูมิแพ้ นอกจากนี้ สเปรย์บางชนิดยังสามารถฉีดบนผิวหนังและเส้นผมโดยตรงได้ พร้อมทั้งเติมความชุ่มชื้นให้กับเมคอัพของคุณในระหว่างวันด้วย

  • フェアリール花粉 黄砂 PM2.5 ブロック (Fairiel Kafun Kosa PM 2.5 Block) เป็นหนึ่งในสเปรย์ป้องกันสารก่อภูมิแพ้สำหรับฉีดบนเสื้อผ้าที่ขายดีที่สุดบนเว็บไซต์ Rakuten
  • Spacebuteエージーマスクスプレー (Ag Mask Spray) เป็นสเปรย์ที่ใช้ฉีดบนหน้ากากอนามัยได้อย่างสะดวกสบาย สามารถป้องกันละอองเกสรได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยอนุภาคซิลเวอร์นาโนจำนวนมาก
  • アレルブロック 花粉ガードスプレー モイストヴェール (Earth Aller Block Kafun Guard Spray Moist Veil) เป็นสเปรย์ที่มอบความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอน เซราไมด์ และน้ำมันอาร์แกน

นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้ครีมป้องกันละอองเกสรทาไว้ในจมูกด้านล่างเพื่อเป็นการป้องกันอีกระดับหนึ่งได้ด้วย ตัวที่ชาวญี่ปุ่นนิยมใช้ก็จะมี:

  • Dr. Theiss アレルシャット 花粉 鼻でブロック (ครีมทาจมูกป้องกันภูมิแพ้และละอองเกสร)
  • アレルシャット 花粉鼻でブロック 鼻腔クリーム (ครีมทาจมูกป้องกันละอองเกสร Fumakilla)
  • 資生堂薬品 イハダ アレルスクリーン ジェル (เจลป้องกันสารก่อภูมิแพ้ Shiseido)

ตัวเลือกสุดท้าย คือ การเพิ่มระดับการป้องกันโดยใช้ตัวกรองจมูก โดยการนำผลิตภัณฑ์อุดรูจมูกมาใส่ไว้ในแต่ละข้างเพื่อกรองละอองเกสรดอกไม้และอนุภาคอื่นๆ แบรนด์อันดับหนึ่งในญี่ปุ่น คือ バイオインターナショナルノーズマスクピットスーパー (Bio International Nose Mask Pit Super)

5. บรรเทาอาการด้วยยาจากร้านขายยา

otc hay fever kafunsho medications japan

คุณควรปรึกษาแพทย์ก่อนซื้อยาแก้โรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้ที่วางจำหน่ายตามร้านขายยาเพื่อให้ได้ยาที่เหมาะกับอาการของคุณมากที่สุด แล้วก็ควรซื้อยาตัวนั้นตุนไว้ล่วงหน้าเพื่อที่จะได้เริ่มทานตั้งแต่ช่วงเวลา 1 – 2 เดือนก่อนที่ฤดูโรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้จะมาถึง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดด้วย
โดยยาแก้แพ้ที่จะวางจำหน่ายอยู่ตามชั้นวางในร้านค้าทั่วญี่ปุ่น เช่น クラリチンEX (Claritin EX), アレグラ (Allegra), アレジオン (Alesion), タリオン (Talion) และ ジ ルテック (Zyrtec)

หากคุณยังต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาเพื่อรับมือโรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้ เรามีสินค้าเพิ่มเติมที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยามาแนะนำด้วย ได้แก่

  • น้ำยาล้างตา เช่น 小林製薬 アイボン洗眼薬AL (น้ำยาล้างตา Kobayashi Pharmaceutical) หรือ ロート製薬 アルガード目すっきり洗眼薬 (น้ำยาล้างตาป้องกันภูมิแพ้ Rohto)
  • ยาหยอดตา เช่น ザジテンAL点眼薬 (ยาหยอดตา Zaditen)
  • สเปรย์ฉีดจมูก เช่น エージーノーズアレルカット (สเปรย์ฉีดจมูกป้องกันภูมิแพ้ Ag) และน้ำยาล้างจมูก เช่น 小林製薬ハナノアa (น้ำยาล้างจมูก Hananoa Kobayashi Pharmaceutical) หรือกาล้างจมูก เช่น ネティウォッシュセラミック ネティポット (กาล้างจมูก Neti Wash)
  • ลูกอมบรรเทาคอและจมูก ช่วยให้หายใจสะดวกขึ้นและบรรเทาอาการเจ็บคอได้ เช่น ライオン花粉プラス鼻のど飴 (ลูกอมบรรเทาคอและจมูก Lion Kafun Plus) หรือ カンロノンシュガースパーメントールのど飴 (ลูกอมซูเปอร์เมนทอลสูตรไม่มีน้ำตาลสำหรับบรรเทาคอและจมูก Kanro)

6. ไปคลินิกเพื่อขอใบสั่งยาสำหรับโรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้

japan visit clinic doctor for kafunsho hay fever prescription medications

หากคุณมีอาการแพ้เกสรดอกไม้อย่างรุนแรง เราขอแนะนำให้คุณไปตรวจสุขภาพที่คลินิกใดก็ได้ในญี่ปุ่นเพื่อให้แพทย์เขียนใบสั่งยาให้

  • 耳鼻咽喉科 หรือ 耳鼻科 (จิบิอินโคกะ หรือ จิบิกะ) เป็นคลินิกเฉพาะทางด้านโสตศอนาสิกวิทยา เพื่อวินิจฉัยและรักษาอาการจมูกอักเสบต่างๆ เช่น อาการจาม คัดจมูก เจ็บคอ
  • 眼科 (กันกะ) เป็นคลินิกเฉพาะทางด้านจักษุวิทยา เราขอแนะนำให้คุณมาตรวจที่นี่หากมีอาการภูมิแพ้ขึ้นที่ตา หรือมีอาการตาแดงจากภูมิแพ้ คันตา ตาแดง น้ำตาไหล บวมที่ตาหรือเปลือกตา
  • 内科 (นาอิกะ) เป็นแผนกทั่วไป เน้นการรักษาที่อายุรศาสตร์ รวมถึงอาการที่เกี่ยวข้องกับไข้หวัดและไข้ละอองฟาง
  • アレルギー科 (อาเรรูกิอิกะ) เป็นคลินิกที่มีแพทย์เฉพาะทางด้านโรคภูมิแพ้ ซึ่งได้รับการรับรองจากสมาคมโรคภูมิแพ้ในญี่ปุ่น
  • 小児科 (โชนิกะ) คุณควรไปคลินิกกุมารเวชศาสตร์ เพื่อรักษาบุตรหลานที่มีอาการจากโรคคะฟุงโช

7. การรักษาระยะยาวในกรณีที่เป็นคะฟุงโชขั้นรุนแรง

long term treatments for severe kafunsho symptoms

โรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็มีวิธีที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องทรมานไปตลอดชีวิตก็คือ ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านโรคภูมิแพ้ หากต้องการการรักษาระยะยาวเพื่อบรรเทาอาการหรือในบางกรณีก็อาจทำให้คุณหายขาดได้ การรักษาโรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้ระยะยาวที่พบบ่อยและมีประสิทธิภาพที่สุด คือ วัคซีนภูมิแพ้ (Allergen Immunotherapy หรือ AIT) ซึ่งคุณอาจพบในชื่อเรียกอื่นๆ อย่าง Desensitization หรือ Hypo-sensitization ก็ได้

วัคซีนภูมิแพ้สามารถบรรเทาอาการหรือลดการใช้ยาให้น้อยลงได้ โดยแพทย์จะให้สารก่อภูมิแพ้เป็นประจำ และค่อยๆ เพิ่มปริมาณสารก่อภูมิแพ้ ไม่ว่าจะด้วยการฉีด ให้ยาเม็ด ฉีดสเปรย์ หรือให้ยาหยอด เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันมากขึ้น โดยจะมี AIT อยู่ 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่:

  • การฉีดสารก่อภูมิแพ้เข้าใต้ผิวหนัง (SCIT) เป็นการฉีดสารสกัดก่อภูมิแพ้เข้าไปซึ่งต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ผู้ป่วยจึงต้องไปพบแพทย์เพื่อฉีดสารก่อภูมิแพ้เป็นประจำทุกสัปดาห์ เป็นเวลา 3 – 6 เดือน จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นฉีดทุกเดือน ตลอดระยะเวลารักษา 3 – 5 ปี
  • วัคซีนภูมิแพ้ชนิดอมใต้ลิ้น (SLIT) ทำได้ด้วยการหยอด หรือให้ยาเม็ดที่สกัดจากสารก่อภูมิแพ้ โดยจะต้องอมไว้ใต้ลิ้นประมาณ 1 – 2 นาทีแล้วกลืนลงไป ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องไปที่คลินิก แต่ต้องทำซ้ำเป็นเวลา 3 วันต่อสัปดาห์ หรือทำเป็นประจำทุกวัน ตลอดระยะเวลาของการรักษา 3 – 5 ปี

8. ทางเลือกอื่นๆ เพื่อบรรเทาอาการคะฟุงโช

soothe kafunsho hay fever symptoms japan

ถึงแม้ว่าโรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้จะมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์น้อย ทำให้ไม่สามารถรักษากันตรงๆ ได้ แต่ทางเลือกเหล่านี้ก็อาจช่วยบรรเทาความเครียดและความเหนื่อยล้าในฤดูคะฟุงโชให้กับคุณได้เช่นกัน อีกทั้งยังสามารถปรับสุขภาพโดยรวมให้ดีขึ้นเพื่อให้ร่างกายอยู่ในสภาพสมบูรณ์และพร้อมสู้กับโรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้กับอาการแฝงต่างๆ ได้

  • การบำบัดด้วยน้ำมันหอมระเหย (Aromatherapy): น้ำมันหอมระเหยบางชนิด เช่น ยูคาลิปตัสและเปปเปอร์มินต์จะช่วยเปิดระบบทางเดินหายใจ เพื่อให้จมูกทำงานได้สะดวกขึ้น
  • การฝังเข็ม: การฝังเข็มเป็นประจำทุกสัปดาห์ จะช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้เกสรดอกไม้ ไม่ว่าจะเป็นอาการคัดจมูก จาม คันตา หรือความเหนื่อยล้า เป็นต้น
  • เครื่องดื่มโพรไบโอติกส์: คุณสามารถดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้ได้เป็นปกติเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่นๆ แต่เมื่อไม่นานมานี้ มีหลักฐานทางวิชาการพบว่าเครื่องดื่มโพรไบโอติกส์ก็อาจจะช่วยลดความรุนแรงของโรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้ได้ด้วยเช่นกัน
  • ดื่มชา: ชาเป็นเครื่องดื่มที่อุดมไปด้วยสารโพลีฟีนอล ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและลดการอักเสบ ดังนั้น การดื่มชาในชีวิตประจำวันก็จะสามารถบรรเทาอาการโรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้ได้ โดยเฉพาะชาเขียวอย่าง べにふうき (เบนิฟูกิ) べにふじ (เบนิฟูจิ) และ べにほまれ (เบนิโฮมาเระ) ซึ่งเต็มไปด้วยสารเมทิลเลตคาเทชินที่มีฤทธิ์บรรเทาอาการภูมิแพ้

อย่ายอมแพ้นะ!

ตอนนี้คุณก็ได้ทราบแล้วว่า “คะฟุงโช” คือโรคอะไรและมีอาการอย่างไร เพียงเท่านี้ก็พร้อมสำหรับการต่อสู้กับมันและใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ เคล็ดลับ และการรักษาที่มีประสิทธิภาพตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น รับรองว่าคุณจะสามารถเอาตัวรอดในฤดูโรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้ในญี่ปุ่นได้อย่างแน่นอน

*ขอแนะนำให้คุณปรึกษาแพทย์ก่อนจะเลือกใช้ยาหรือวิธีรักษาต่างๆ เสมอ

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊กได้เลย !

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

Oyraa
0 Shares: