ทำไมประเทศญี่ปุ่นถึงมีตู้กดน้ำอัตโนมัติมากมายกันนะ? มาดูความลับ 5 ข้อของชาวญี่ปุ่นกันเถอะ!

shutterstock_537028879_1
Oyraa

สำหรับใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่น เดินชมเมืองไปมาก็อดจะเตะตากับสิ่งหนึ่งไม่ได้ นั่นก็คือจำนวนตู้กดน้ำอัตโนมัติที่มีมากมายมหาศาล! แถมในปี 2018 เดือนธันวาคม นับจำนวนเจ้าตู้กดอัตโนมัติทั่วประเทศญี่ปุ่นทั้งหมดได้ถึง 2,937,800 เครื่อง! ถือว่าเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว เทียบกับจำนวนประชากร 126 ล้านคนของประเทศญี่ปุ่นแล้ว ก็คือ 43 คนต่อเครื่อง 1 เครื่องเลย! แถมยอดขายของเจ้าเครื่องพวกนี้ยังมากกว่า 4,736 ล้านเยนอีกด้วยนะ เทียบได้กับยอดขายของบริษัทโทรคมนาคมชั้นนำเลยล่ะค่ะ แต่ทำไมเจ้าตู้กดน้ำนี้ถึงมีบทบาทมากมายในชีวิตชาวญี่ปุ่นนะ? วันนี้บทความของเราจะมาเล่าเหตุผล 5 ข้อที่มีแต่ชาวญี่ปุ่นที่รู้!

1.”ความปลอดภัย” มีผลกับความแพร่หลายของตู้กดน้ำมั้ยนะ?

ตู้กดน้ำอัตโมัติ
smolaw / Shutterstock.com

โดยปรกติของการซื้อของผ่านตู้อัตโนมัติ เมื่อผู้ซื้อชำระเงินแล้ว เงินจะถูกเก็บอยู่ในเครื่องค่ะ การที่มีตู้อัตโนมัติที่มีเงินมากมายในเครื่องตั้งอยู่เฉยๆ ก็เรียกว่าล่อตาล่อใจโจรมากๆ เลยทีเดียว และในหลายๆ ประเทศก็มีการโจรกรรมตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ

ดังนั้น การที่สามารถตั้งตู้อัตโนมัติไว้ในประเทศญี่ปุ่นได้นั้น แสดงว่าความปลอดภัยในสังคมญี่ปุ่นก็เป็นส่วนประกอบที่สำคัญมากๆ จนขาดไม่ได้เลย

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เรียกได้ว่าปลอดภัยสุดๆ ไม่ว่าหญิงสาวจะออกไปเดินคนเดียวยามค่ำมืด หรือว่าจะวางโทรศัพท์มือถือไว้บนเข่าแล้วเผลอหลับไปบนรถไฟ ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอันตรายเลย จึงเข้าเงื่อนไขในการติดตั้งตู้กดน้ำอัตโนมัติเหล่านี้ และก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้มีตู้กดน้ำอัตโนมัติเป็นจำนวนมากในญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ที่ตู้ถูกทำลายหรือถูกโจรกรรมจะมีบ้าง แต่ว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แล้ว ก็ถือว่าเป็นอัตราที่ต่ำมากๆ ค่ะ

2.ชาวญี่ปุ่นงานยุ่งตัวเป็นเกลียวทุกวัน เลยต้องลดเวลาซื้อเครื่องดื่ม?

ตู้กดน้ำอัตโมัติ

หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ตู้กดน้ำอัตโนมัติแพร่หลายในประเทศญี่ปุ่นก็คือพฤติกรรมการซื้อของชาวญี่ปุ่น เนื่องจากทุกคนงานยุ่งมาก เวลาในการซื้อของเหล่านี้จึงต้องถูกลดทอนลงไปค่ะ ตัวอย่างเช่น ในเมืองใหญ่ๆ ที่มีตู้กดจำนวนมากอย่างโตเกียวหรือว่าจังหวัดไอจิ ก็มีบางสิ่งบางอย่างที่เป็นลักษณะร่วมค่ะ นั่นก็คือ การเป็นเมืองเศรษฐกิจชั้นนำของประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง

ยิ่งไปกว่านั้น ในเมืองอย่างโตเกียวและนาโกย่ายังมีจำนวนชั่วโมงการทำงานของพนักงานบริษัทสูงกว่าบริเวณอื่นในญี่ปุ่นมากเลยทีเดียว เรียกได้ว่า ยิ่งจำนวนพนักงานบริษัทที่ยุ่งสุดๆ มีมากเท่าไหร่ จำนวนตู้กดอัตโนมัติก็เพิ่มขึ้นมากเท่านั้นค่ะ เริ่มเห็นความสัมพันธ์หรือยังคะ!

ทีนี้มาลองดูกันว่าชั่วโมงทำงานของพนักงานบริษัทเหล่านี้เมื่อเทียบกับที่อื่นในโลกแล้วเป็นอย่างไร? จากเว็บไซต์ที่รวบรวมสถิติทั่วโลกอย่าง GLOBAL NOTE เมื่อดูสถิติการทำงานแยกตามประเทศแล้ว ประเทศญี่ปุ่นได้เป็นอันดับที่ 22 ค่ะ ถ้ามองแต่ตัวเลขแล้วก็จะพบว่า ประเทศที่ประชากรมีเวลาการทำงานสูงกว่าประเทศญี่ปุ่นก็มีไม่น้อยเลย แต่หากมองลงไปลึกๆ ก็จะเห็นว่าประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่นนั้น บ้างก็ไม่ได้คำนวณการทำงานล่วงเวลา หรือบ้างก็ไม่ได้จ่ายเงินค่าทำงานล่วงเวลาให้แก่พนักงาน บ้างก็ไม่ได้นับการทำงานล่วงเวลาว่าเป็นการทำงาน เมื่อพิจารณาถึงตัวเลขเวลาการทำงานที่แท้จริงแล้ว พบว่าชาวญี่ปุ่นพยายามชดเชยการผลิตที่มีปริมาณน้อยด้วยเวลาการทำงานที่มากเกินกว่าที่ระบุไว้ ดังนั้น อันดับที่แท้จริงของประเทศญี่ปุ่นคงอยู่สูงกว่า 22 เป็นแน่! เรียกว่าคงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกแน่นอนค่ะ

ด้วยเหตุนี้ พนักงานบริษัททั้งหลายจึงต้องใช้เวลาที่มีให้คุ้มค่าที่สุด ไม่ยอมเสียไปกับกิจกรรมอย่างการดื่มชาในร้าน หรือการซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อและร้านขายของชำ แต่หันมาลดเวลาการจับจ่ายซื้อของด้วยการซื้อผ่านตู้อัตโนมัติแทน นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งให้เจ้าตู้กดอัตโนมัติเหล่านี้แพร่หลายอยู่ทั่วไปในสังคมญี่ปุ่นค่ะ

3.ใครๆ ก็ติดตั้งตู้กดอัตโนมัติได้เหรอ? มีคนทำเป็นงานอดิเรกด้วย?

ตู้กดน้ำอัตโมัติ
Krikkiat / Shutterstock.com

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ตู้กดน้ำอัตโนมัติแพร่หลายก็คือกลยุทธ์ของบริษัทที่เป็นผู้ผลิตเครื่องเหล่านี้ค่ะ เมื่อตู้กดน้ำอัตโนมัติเริ่มมีให้เห็นทั่วไป หากผู้ใดต้องการซื้อเครื่องไปติดตั้งด้วยตนเอง จะต้องเสียเงินซื้อเครื่องไปในราคาหนึ่งล้านเยน (สามแสนบาทโดยประมาณ) เมื่อพิจารณาถึงราคาที่ต้องจ่าย แถมยังมีภาระที่ตามมาในการดูแลตู้พวกนี้อีก ก็เลยทำให้ในอดีต ตู้กดอัตโนมัติไม่ได้แพร่หลายเหมือนทุกวันนี้ค่ะ

ต่อมา บริษัทที่ผลิตตู้กดน้ำอัตโนมัติเลยพยายามเอาชนะสถานการณ์นี้ด้วยการให้เช่าตู้ไปฟรีๆ จึงทำให้จำนวนตู้กดอัตโนมัติเพิ่มขึ้นไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็วนั่นเอง

จริงๆ แล้ว การติดตั้งตู้กดน้ำอัตโนมัติ รวมถึงตู้ขายสินค้าอัตโนมัติในประเทศญี่ปุ่น เพียงแค่ติดต่อกับบริษัทที่ผลิตแล้วทำสัญญากัน ไม่ว่าใครก็สามารถเป็นเจ้าของเครื่องได้ค่ะ แถมหลังจากติดตั้งแล้ว บริษัทผู้ผลิตก็จะดูแลให้หมดเลยค่ะ ทั้งการเติมสินค้าหรือการเติมเงินภายในเครื่อง รวมไปถึงการซ่อมแซมต่างๆ เวลาได้ยอดขายมา ก็ยังได้ส่วนแบ่งหลายสิบเปอร์เซ็นไปอีกต่างหาก โดยผู้ติดตั้งไม่จำเป็นต้องมีคุณสมบัติพิเศษใดๆ ก็สามารถหารายได้เสริมได้ค่ะ เหล่าพนักงานบริษัทที่มีตู้กดอัตโนมัติเป็นรายได้เสริมก็เลยมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เลย

สรุปก็คือ เนื่องจากการติดตั้งเจ้าตู้กดน้ำอัตโนมัตินี้ทำได้ง่ายดายและยังเป็นงานพิเศษที่น่าดึงดูดใจอีกด้วย ทำให้จำนวนการติดตั้งตู้กดน้ำอัตโนมัติเพิ่มขึ้นจนแพร่กระจายไปทั่วประเทศนั่นเองค่ะ

4.สุดยอดการดูแลและจัดการเบื้องหลัง!

ตู้กดน้ำอัตโมัติ
Milkovasa / Shutterstock.com

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ตู้กดน้ำอัตโนมัติแพร่หลายไปทั่วก็คือการดูแลและระบบจัดการเครื่องค่ะ เมื่อเครื่องอัตโนมัติเหล่านี้เพิ่มขึ้น ก็มีโอกาสที่ขยะต่างๆ เช่น กระป๋อง จะถูกทิ้งเกลื่อนกลาดตามเมืองจนทำให้เมืองเสียภาพลักษณ์ได้

แล้วอย่างนี้ที่ญี่ปุ่นเค้าดูแลอย่างไรกันนะถึงสามารถรักษาความสะอาดของเมืองไว้ได้ตามเดิม?

คำตอบก็คือบริษัทที่มาติดตั้งตู้กดอัตโนมัติเหล่านี้จะต้องมีระบบการจัดการที่ดีและครอบคลุมในทุกๆ ด้านค่ะ ตัวอย่างเช่น นอกจากจะติดตั้งตู้กดอัตโนมัติแล้ว ก็ยังต้องติดตั้งถังขยะไว้กับตู้ด้วย แถมยังมีระบบเติมของในตู้อัตโนมัติไม่ให้ของขาดอีก

นอกจากนี้ยังต้องมีการตรวจสอบและซ่อมแซมระบบ เพื่อให้ระบบเสถียรและสามารถดำเนินการจ่ายของได้อย่างไม่บกพร่องค่ะ ด้วยการทำงานของบริษัทที่ตรวจสอบและดูแลเครื่องกดอัตโนมัติเหล่านี้นี่แหละ จึงทำให้ตู้กดได้รับความนิยมไปทั่วญี่ปุ่นเลย 

5.ในอดีต ตู้ทุกตู้จำหน่ายสินค้าด้วยการจ่ายเงินเพียงเหรียญเดียว!

ตู้กดน้ำอัตโมัติ
icosha / Shutterstock.com

สาเหตุหนึ่งที่ตู้กดน้ำอัตโนมัติแพร่หลาย ก็คือราคาที่ถูกแสนถูกนั่นเอง! โดยเฉพาะในช่วงแรกที่ประเทศญี่ปุ่นเริ่มเก็บภาษีผู้บริโภคหลังจากปี 1989 ในตอนนั้นน้ำผลไม้กระป๋องมีราคาเพียง 100 เยนเท่านั้นค่ะ ถือเป็นราคาที่สมเหตุสมผล แถมยังใช้แค่เหรียญเดียวในการซื้อ ไม่ต้องยุ่งยาก ทำให้เจ้าตู้กดแพร่หลายไปอย่างรวดเร็วเลย

หมายเหตุ ในปัจจุบัน (ปี 2020) ก็ยังมีตู้กดอัตโนมัติที่จำหน่ายสินค้าราคา 100 เยนหรือต่ำกว่าอยู่เช่นกัน (ตามภาพด้านบน) แต่มีจำนวนไม่มากและไม่สามารถระบุจำนวนเครื่องดังกล่าวได้

ตู้กดน้ำอัตโมัติ
2p2play / Shutterstock.com

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 2000 จำนวนผู้ใช้บริการตู้กดน้ำอัตโนมัติมีแนวโน้มลดลง เหตุผลก็คืออัตราภาษีผู้บริโภคที่สูงขึ้น ทำให้ไม่สามารถซื้อสินค้าต่างๆ ได้ในเหรียญเดียวอีกแล้วค่ะ อัตราภาษีผู้บริโภคในปัจจุบันอยู่ที่ 10 เปอร์เซ็น ราคาของเครื่องดื่มหลักๆ อย่างน้ำผลไม้กระป๋องขนาด 185-350 มล. จึงปรับตัวเป็น 130 เยน ในขณะที่ขนาด 490-600 มล. หรือขนาดเท่าขวดน้ำ อยู่ที่ 160 เยนค่ะ

แต่ถึงอย่างนั้น ในช่วงปีที่ผ่านมา จำนวนชาวญี่ปุ่นที่หันไปใช้ E-money ก็มีไม่น้อย และเครื่องกดอัตโนมัติเหล่านี้จึงมีระบบรองรับการจ่ายเงินแบบ E-money ทำให้จำนวนผู้ใช้บริการกลับมามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกครั้งค่ะ เรียกได้ว่าเคล็ดลับอีกอย่างของตู้พวกนี้ก็คือ การที่สามารถซื้อของได้สะดวกสบาย ไม่ต้องไปยืนรอจ่ายเงิน แล้วก็ไม่ต้องมีพนักงานมาบริการนั่นเองค่ะ

โบนัสเสริม : วิธีใช้ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ

ตู้กดน้ำอัตโมัติ
Huahomm / Shutterstock.com, Ned Snowman / Shutterstock.com, Brady Barrineau / Shutterstock.com, Matt Makes Photos / Shutterstock.com

ขั้นตอนในการใช้ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัตินั้นแตกต่างกันไปตามแต่ละเครื่องค่ะ อย่างแรกที่ต้องทำก็คือใส่เงินเข้าไปปกติแล้วธนบัตรและเหรียญที่ใช้ได้ ก็จะมีธนบัตร 1000 เยน เหรียญ 500 เยน 100 เยน 50 เยนและ 10 เยน ส่วนเหรียญ 5 เยนและ 1 เยนจะไม่สามารถใช้ได้นะคะ ธนบัตรที่มูลค่าเกินกว่า 1000 เยนก็ใช้ไม่ได้เช่นกันค่ะ

เมื่อใส่เงินเรียบร้อยแล้วก็เพียงกดสินค้าที่เราต้องการได้เลย หากเราใส่เงินในมูลค่าที่เพียงพอต่อการชำระเงินแล้ว เพียงกดปุ่มเลือกสินค้าก็ถือว่าเรียบร้อยแล้ว พอสินค้าก็หล่นออกมาเงินทอนก็จะมาอยู่ที่ช่องเงินทอนค่ะ

อีกวิธีหนึ่ง หากใช้เงินอิเล็กทรอนิคส์ (E-money) ก็ให้กดเลือกสินค้าก่อน หลังจากนั้นปุ่มสินค้าที่เราเลือกจะเปล่งแสงออกมาค่ะ แล้วเราก็แค่แตะบัตร IC หรือว่าเงินอิเล็กทรอนิคส์ที่เราใช้ไปแปะบริเวณเครื่องอ่านบัตรที่ติดตั้งไว้ใกล้ๆ ที่หยอดเหรียญ เมื่อแตะแล้ว เครื่องก็ส่งเสียงออกมา แปลว่าเรียบร้อยดีค่ะ แล้วสินค้าก็จะออกมาเอง!

อีกข้อสังเกตหนึ่งก็คือ ตรงหน้าสินค้าจะมีสัญลักษณ์สีฟ้า หรือคำว่า “เย็น” (つめたい) เขียนด้วยสีฟ้า และสัญลักษณ์สีแดง หรือตัวอักษรสีแดงเขียนว่า “ร้อน” (あたたかい) อยู่ค่ะ เอาไว้แสดงว่าสินค้าไหนเป็นเครื่องดื่มเย็น หรือเป็นเครื่องดื่มร้อนนั่นเอง

มาญี่ปุ่นแล้ว อย่าลืมลองกดน้ำจากตู้กดอัตโนมัติดูนะ!

ตู้กดน้ำอัตโมัติ
tomasz karwowski / Shutterstock.com

แม้ว่าจะมีตู้กดอัตโนมัติอยู่ทั่วญี่ปุ่น แต่สินค้าในเครื่องก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละตู้ ผลิตภัณฑ์ที่ขายก็มีหลากหลายทั้งน้ำอัดลม กาแฟ นม น้ำเปล่า ชา แอลกอฮอล์ หรือว่าจะเป็นบุหรี่ ไอศกรีม ขนม แม้กระทั่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วยหรือของหวานก็มีค่ะ! แถมบางที่ยังมีสินค้าพิเศษที่ขายเฉพาะในตู้กดอัตโนมัติ หรือสินค้าขนาดพิเศษที่หาซื้อไม่ได้ตามร้านสะดวกซื้อหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตอีกด้วย!

ถ้ามีโอกาสได้มาเที่ยวญี่ปุ่น ก็อย่าลืมมาลองซื้อเครื่องดื่มจากตู้กดน้ำอัตโนมัติดูนะคะ ลองเทียบดูว่าเครื่องดื่มที่ญี่ปุ่นกับที่ไทยรสชาติต่างกันอย่างไรบ้าง หรือจะลองมาดื่มเครื่องดื่มที่มีขายเฉพาะในญี่ปุ่นก็น่าตื่นเต้นไม่น้อยเลย โดยเฉพาะช่วงใกล้ๆ กลับที่มีเหรียญเหลือเยอะๆ ไม่รู้จะเอาไปใช้ซื้ออะไร ก็เอามาหยอดตู้กดอัตโนมัติได้เลยค่ะ

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

Oyraa
0 Shares: