วิธีถ่ายรูปสมัครงานในญี่ปุ่นให้เป๊ะ!

มาตรฐานรูปติดบัตรในญี่ปุ่น

เช่นเดียวกับรูปถ่ายพาสปอร์ต รูปถ่ายสำหรับการสมัครงานในญี่ปุ่นเองก็มีมาตรฐาน ทั้งในเรื่องของขนาด แสงสว่าง พื้นหลัง และอื่นๆ โดยหลักเกณฑ์ทั่วไปจะมีดังนี้:

• รูปถ่ายต้องมีความสูง 4 ซม. และกว้าง 3 ซม.
• รูปถ่ายควรมีแสงสว่างที่เหมาะสม (เช่น ไม่มีเงาตรงขอบรูป เป็นต้น)
• พื้นหลังจะต้องไม่เด่นกว่าใบหน้าของผู้สมัคร (พื้นหลังควรเป็นสีพื้นหรือสีขาว)
• รูปถ่ายควรมีอายุไม่เกิน 3 – 6 เดือนเป็นอย่างมาก
• กรณีที่ต้องส่งรูปถ่ายในเอกสารตัวจริง ควรเขียนชื่อผู้สมัครไว้หลังรูปถ่ายด้วย
• ผู้สมัครมองตรงและมองกล้องขณะถ่ายรูป
• ไม่ควรมีสิ่งใดปกปิดใบหน้าของผู้สมัคร (เช่น ผม หมวก หรือแว่นกันแดด)

ผู้สมัครควรดูดีและเหมาะสมที่สุดในภาพ เช่น ใส่ชุดสูท หรือชุดทำงานแบบลำลอง หวีผม และแต่งหน้าอ่อนๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทก็ยังคงมองหาภาพถ่ายที่สมจริง ไม่ผ่านการแต่งภาพ ทำให้สตูดิโอถ่ายภาพหรือตู้ถ่ายรูปส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นไม่มีบริการแต่งภาพให้นั่นเอง

ตามปกติ ค่าใช้จ่ายในการถ่ายภาพสมัครงานจะอยู่ระหว่าง 2,000 – 3,000 เยน และหากต้องการไฟล์แบบดิจิทัลก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม นอกจากนี้ หากเป็นสตูดิโอที่มีบริการแต่งภาพ ก็จะมีค่าบริการเพิ่มเติมในจุดนี้ด้วยเช่นกัน แต่มีโอกาสที่คุณจะไม่ถูกใจภาพที่แต่งออกมานัก ดังนั้นจึงแนะนำให้เลือกใช้ภาพที่สมจริง ไม่ผ่านการแต่งดีกว่า

ถ่ายรูปติดบัตรในญี่ปุ่นที่ไหนดี?

สถานที่ 3 ประเภทที่ใช้บริการถ่ายรูปได้:

ตู้ถ่ายรูป

หากใครเคยไปญี่ปุ่น คงเคยเห็นตู้ถ่ายรูปที่ตั้งอยู่ตามหน้าสถานีรถไฟ ซูเปอร์มาร์เก็ต และสถานที่อื่นๆ ที่ผู้คนมักจะมารวมตัวกัน ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ใช้ตู้เหล่านี้ถ่ายรูปใบหน้าหรือรูปติดบัตร เนื่องจากการถ่ายภาพที่สตูดิโอมักจะมีราคาตั้งแต่ 3,000 เยนขึ้นไป ดังนั้นหากคุณต้องรีบใช้รูปติดบัตรเพื่อทำใบขับขี่ พาสปอร์ต หรือบัตร MyNumber ก็สามารถถ่ายรูปในราคาประหยัดได้ด้วยตู้ถ่ายภาพที่มีราคาเพียง 700 – 1,000 เยนเท่านั้น

ในราคานี้ คุณสามารถเลือกสีพื้นหลังและขนาดของรูปได้ แถมเครื่องถ่ายรูปรุ่นใหม่บางรุ่นยังสามารถแต่งรูปแบบดิจิทัลได้อีกด้วย ถือเป็นตัวเลือกที่ดีในกรณีที่ต้องใช้รูปอย่างเร่งด่วนในราคาประหยัด แต่ทั้งนี้ คุณภาพของรูปที่ได้อาจไม่ดีนัก จึงไม่ค่อยแนะนำให้ใช้รูปถ่ายจากตู้ถ่ายรูปเพื่อใช้ในใบสมัครงาน

เครื่องพิมพ์รูปเซลฟี่

ทุกวันนี้สมาร์ทโฟนทุกเครื่องล้วนมีกล้องในตัว หลายคนจึงหันมาใช้สมาร์ทโฟนเพื่อถ่ายรูปติดบัตรแทน เมื่อคุณใช้แอพฯ ถ่ายภาพและแต่งภาพเล็กๆ น้อยๆ ก็จะสามารถพิมพ์รูปออกมาได้ทันที เครื่องพิมพ์เหล่านี้มีอยู่ตามร้านสะดวกซื้อและร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง Bic Camera หรือ Kitamura และการพิมพ์รูปด้วยตนเองแบบนี้ก็มีราคาเพียง 500 เยน ซึ่งถือว่าถูกกว่าสตูดิโอถ่ายภาพเยอะมาก!

แต่ความแตกต่างของรูปพิมพ์เซลฟี่กับรูปถ่ายจากมืออาชีพก็ย่อมเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นท่าทาง การแสดงสีหน้ารวมไปถึงแนวสายตา นอกจากนั้น การแต่งภาพก็จะส่งผลให้ความละเอียดของภาพลดลงด้วย ดังนั้นหากคุณไม่เชี่ยวชาญด้านโปรแกรม Photoshop หรือโปรแกรมแต่งรูปอื่นๆ ก็ไม่ควรแต่งภาพเพราะอาจทำให้ภาพเสียได้ การถ่ายรูปใบหน้าด้วยตัวเองประหยัดเงินกว่าก็จริง แต่หากไม่เชี่ยวชาญก็จะทำให้เสียเวลามากได้เช่นกัน!

สตูดิโอถ่ายภาพมืออาชีพ

เนื่องจากรูปในใบสมัครงานจะสร้างความประทับใจให้กับนายจ้างในอนาคตไปอีกนาน การใช้บริการช่างภาพมืออาชีพจึงอาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด สตูดิโอถ่ายภาพมีบริการหลากหลายเพื่อภาพถ่ายในทุกโอกาส ตั้งแต่บริการพื้นฐานอย่างรูปติดบัตร รูปติดพาสปอร์ต ไปจนถึงแพ็คเกจรูปถ่ายสมัครงานเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม สตูดิโอส่วนใหญ่ไม่มีบริการแต่งภาพ หรือหากมีก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วย นอกจากนี้ ราคามาตรฐานก็ยังไม่รวมไฟล์ดิจิทัล ทำให้การถ่ายภาพในสตูดิโอมืออาชีพมีราคาสูงพอสมควร

อย่างไรก็ตาม หากคุณคำนึงถึงผลของการหางานหรือการย้ายงานที่มีต่อชีวิตคุณแล้ว คุณก็อาจจะยอมจ่ายเงินเพิ่มอีกสักนิดเพื่อให้ได้รูปติดบัตรหรือรูปถ่ายใบหน้าที่เหมาะสมที่สุด! เราจึงอยากแนะนำสตูดิโอถ่ายภาพในญี่ปุ่น 2 – 3 แห่งที่คุณมั่นใจได้เลยว่าจะได้ภาพถ่ายคุณภาพสูงสำหรับติดใบสมัครงานอย่างแน่นอน

แนะนำสตูดิโอถ่ายภาพในญี่ปุ่น

Akebonobashi Tops Shashinkan

สตูดิโอ Tops รองรับลูกค้าด้วยบริการที่ยอดเยี่ยมสมชื่อร้านมานานกว่า 20 ปีแล้ว อีกทั้งยังมีบริการแต่งรูปที่ใช้เวลาเพียง 15 นาทีด้วย สตูดิโอ Tops ตั้งอยู่ในแหล่งช็อปปิ้งย่าน Akebonobashi ตัวร้านอยู่ชั้นใต้ดิน แต่จะมีป้ายบอกทางเข้า ทำให้สามารถสังเกตได้ง่ายๆ

MJ PHOTO STUDIO

MJ Photo Studio ตั้งอยู่ในย่านชินโอคุโบะ แม้จะเพิ่งเปิดทำการไปเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 แต่ก็โด่งดังขึ้นมาในเวลาอันสั้น! คุณจะต้องจองคิวล่วงหน้าสำหรับบริการถ่ายภาพ ซึ่งสามารถจองก่อนได้นานถึง 2 เดือน ตามปกติแล้ว สตูดิโอแห่งนี้จะมีคิวจองอย่างล้นหลามติดกันหลายสัปดาห์ ดังนั้นจึงควรจองล่วงหน้าให้เร็วที่สุด คิวยาวขนาดนี้เป็นข้อพิสูจน์ชัดเจนเลยว่าเป็นที่นิยมในหมู่หนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติขนาดไหน!

ที่นี่มีบริการหลากหลาย เช่น บริการถ่ายรูปโปรไฟล์ หรือบริการถ่ายรูปติดบัตรเร่งด่วน แถมยังมีราคาค่อนข้างถูกกว่าสตูดิโออื่นๆ ด้วย หากเป็นบริการถ่ายรูปโปรไฟล์จะต้องจองล่วงหน้าประมาณ 1 สัปดาห์ แต่บริการถ่ายรูปติดบัตรนั้นจะสามารถทำได้ทันที ส่วนร้าน MJ Photo Studio ยังมีสาขาใหม่ในโอซาก้าที่เปิดตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมด้วย

MJ Photo Studio อยู่ในระยะที่เดินจากสถานีชินโอคุโบะและสถานีโอคุโบะได้ แต่อาจจะหายากสักหน่อย เพราะไม่มีป้ายคอยบอกทาง วิธีที่ง่ายที่สุด คือ ออกจากสถานี Okubo ผ่านทางออกทิศใต้ เดินมาทางถนนด้านขวาแล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ เมื่อถึงร้านอาหารไทยซ้ายมือ ให้มองหาบริษัทอสังหาริมทรัพย์ฝั่งตรงข้ามถนน สตูดิโอจะตั้งอยู่บนชั้น 3 ของอาคารนั้น

STUDIO 24K

สตูดิโอถ่ายภาพยนตร์และภาพถ่ายส่วนบุคคลแห่งนี้ได้รับความนิยมในหมู่ชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นอย่างล้นหลามในเรื่องของความสามารถของช่างภาพ นอกจากนี้ สตูดิโอ 24K ยังมีบริการถ่ายรูปพาสปอร์ตและรูปถ่ายติดบัตรอื่นๆ ด้วย ถึงแม้จะไม่ได้ระบุในเว็บไซต์ของทางร้านก็ตาม (ต้องจองล่วงหน้า) ใครต้องการรูปติดบัตรคุณภาพสูงที่ดูเป็นธรรมชาติ เราขอแนะนำให้มาที่สตูดิโอ 24K แห่งนี้เลย!

คุณสามารถเดินมาได้จากทางออกทิศเหนือของสถานีโยโยกิ โดยใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น สตูดิโอนี้ตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัยอันเงียบสงบและยังสังเกตเห็นได้ง่ายเนื่องจากตั้งอยู่ที่ชั้นล่างของตึกอีกด้วย

รูปสวย ใบสมัครงานก็ออกมาดูดี!

ถ้าได้รูปติดบัตรสวยๆ แนบลงในใบสมัครงานแล้งก็จะช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้นว่าใบสมัครงานของคุณจะสร้างความประทับใจให้กับนายจ้างในอนาคตได้ ถึงแม้ว่าบทความนี้จะแนะนำสตูดิโอถ่ายภาพเป็นหลัก แต่เราก็หวังว่าเคล็ดลับที่อยู่ในนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เลือกวิธีอื่นๆ ในการถ่ายรูปติดบัตรหรือรูปถ่ายใบหน้าเช่นกัน สุดท้ายนี้เราขอเป็นกำลังใจให้คุณได้งานที่ต้องการด้วยนะ!

Thumbnail image: PIXTA

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊กได้เลย !

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่