แนะนำ 5 โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นน่าสนใจในโตเกียว

5 recommended japanese language school in tokyo
พาทุกคนไปชมตัวอย่างโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นน่าสนใจในโตเกียว สำหรับผู้ที่สนใจจะเรียนภาษา เพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่าบริเวณรอบๆ โรงเรียนเหล่านี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง พร้อมบอกข้อมูลหลักสูตรและค่าเล่าเรียนอย่างคร่าวๆ ไว้เป็นตัวอย่างกันค่ะ
Oyraa

ในบทความวิธีการเลือกโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น เราได้แนะนำเคล็ดลับและวิธีเลือกโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นในประเทศญี่ปุ่นไป ครั้งนี้เราจะขอพาทุกคนไปชมตัวอย่างโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นน่าสนใจในโตเกียว สำหรับผู้ที่สนใจจะเรียนภาษา เพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่าบริเวณรอบๆ โรงเรียนเหล่านี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง พร้อมบอกข้อมูลหลักสูตรและค่าเล่าเรียนอย่างคร่าวๆ ไว้เป็นตัวอย่างกันค่ะ

1. TOYO Language School | สถานี Nishi-Kasai (西葛西)

สำหรับโรงเรียนแรก เราขอพาทุกคนไปรู้จักกับโรงเรียนสอนภาษาที่สถานี Nishi–Kasai ค่ะ อยู่ห่างจากใจกลางโตเกียวพอสมควรเลย

บรรยากาศโดยรอบ

เมื่อลงรถที่สถานี Nishi–Kasai ก็จะเจอนักเรียนที่เดินทางมาแถวนี้ด้วยเหมือนกัน สถานีมีคนเยอะแต่ไม่ถึงขั้นแออัด ถือว่าเป็นทำเลที่ดีเลยทีเดียว

เมื่อลงมาด้านล่างจะเจอร้านเบเกอรี่ชื่อ Mermaid Cafe อยู่ด้านล่างก่อนแตะบัตรออก ถึงจะไม่ใช่สถานีในเมืองใหญ่แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะพอสมควร เมื่อแตะบัตรออกไปแล้วก็จะเจอร้านสะดวกซื้อ Lawson อยู่ในสถานีด้วย

ถึงตรงนี้ก็ขอให้เดินไปยังทางออก South Exit เลยค่ะ

ตอนเดินออกมาจากสถานี บอกตรงๆ ว่าผู้เขียนเองก็ทึ่งไม่น้อยเพราะมีร้านอาหารและร้านค้าต่างๆ เยอะเกินคาด การออกแบบผังเมืองตรงนี้ก็ดูโปร่งสบายตา มีคนเยอะแต่ไม่พลุกพล่าน รู้สึกปลอดภัยสบายใจได้พอสมควร

วันนี้เราจะพาทุกคนเดินไปค่ะ เมื่อลงมาจากทางออกก็ให้เดินตรงไปข้ามถนนเลย จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายตรงหัวมุมที่เป็นร้านคาราโอเกะค่ะ

ร้านค้าเยอะมากระหว่างทาง มีทั้งร้านสะดวกซื้อ คาเฟ่ และยังมีร้านขายยา Matsumoto (มี Tax Free ด้วย) นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารสำหรับครอบครัวอย่าง Saizeriya ด้วย ที่นักเรียนนักศึกษานิยมมานั่งติวหนังสือกับเพื่อนๆ กัน แล้วยังมีร้าน Kaldi Coffee Farm ร้านขายสินค้าเครื่องปรุงที่มีเครื่องปรุงอาหารไทยขายอยู่ด้วยนะ

เมื่อเดินสุดซอยแล้วเลี้ยวขวา จะพบ 4 แยกถนนใหญ่ที่มีร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่อีกถึง 2 แห่ง ร้านอาหาร และสวนสาธารณะที่มีครอบครัวและเด็กๆ มาวิ่งเล่น ถึงคนบางตาลงบ้างแล้ว แต่ก็ยังดีที่มีร้านสะดวกซื้อเปิด 24 ชั่วโมงอยู่ด้วย ทำให้สบายใจได้หากต้องเดินตอนช่วงเย็นๆ ค่ะ

ตรงนี้ให้ข้ามถนนไปทางร้าน Lawson แล้วเดินเข้าซอยไปค่ะ ถนนก็จะเงียบขึ้น ระหว่างทางก็พอจะมีร้านค้าและสวนสาธารณะอยู่บ้าง เดินมองได้เพลินๆ เลยค่ะ

เมื่อเดินตรงตามทางไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็จะพบโรงเรียน TOYO Language School ค่ะ จะเห็นว่ามีป้ายรถบัสมาลงด้วย ใครขี้เกียจเดินก็สามารถนั่งบัสมาได้เช่นกัน

ทีนี้มาดูความสะดวกรอบโรงเรียนกันอีกสักหน่อยว่าสะดวกไหม แถวนี้ถือว่ามีคนไม่เยอะค่ะ รอบๆ ก็เป็นสวน ใครชอบธรรมชาติอาจจะถูกใจเลยค่ะ หากเดินเลยโรงเรียนไปจนสุดหัวมุมแล้วเลี้ยวซ้ายก็จะเจอร้านสะดวกซื้อของเซเว่นค่ะ ถือว่าสะดวกใช้ได้จริงๆ

ค่าเล่าเรียนและรูปแบบคอร์ส

จุดที่น่าสนใจของโรงเรียนนี้ คือ หลักสูตรการสอนที่ชัดเจน โดยมีแพลนอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 หลักสูตรด้วยกัน คือ

  • หลักสูตรสำหรับเข้าโรงเรียนสอนวิชาชีพ (Professional Training College)
  • หลักสูตรสำหรับเข้ามหาวิทยาลัย (University)
  • หลักสูตรสำหรับเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะ (Art University)
  • หลักสูตรเตรียมตัวสำหรับการหางานในประเทศญี่ปุ่น

สิ่งที่ผู้เขียนได้ทราบจากข้อมูลในเอกสารและจากการคุยกับเจ้าหน้าที่ คือ หลักสูตรเหล่านี้ไม่ได้เน้นแต่การปรับพื้นฐานภาษาของผู้เรียนเท่านั้น แต่ยังมีการให้ข้อมูลนักเรียนและเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบที่จำเป็นด้วย เช่น หลักสูตรโรงเรียนสอนวิชาชีพ ก็จะมีการแนะนำเรื่องการสอบ พาชมโรงเรียน ฝึกซ้อมการสัมภาษณ์ เตรียมใบสมัครและจดหมายที่ต้องใช้ด้วย

สำหรับหลักสูตรเข้ามหาวิทยาลัยก็จะมีการสอนทำข้อสอบข้อเขียนแบบ Academic ซึ่งจะใช้ในการสอบเข้า นอกจากนี้ ยังมีการช่วยนักเรียนหาหัวข้องานวิจัย สอนเขียน Research Plan และเตรียมใบสมัครด้วย ส่วนแพลนวิทยาลัยศิลปะก็จะมี Mock Exam ที่เป็นการเลียนแบบการสอบจริงให้นักเรียนได้ซ้อมก่อนไปสอบจริงกันด้วย ในขณะที่หลักสูตรหางานก็มีการแนะนำระบบหางานในญี่ปุ่นแบบลงลึกถึงรายละเอียด มีการสอนเขียน เรซูเม่ และ PR ตัวเอง พร้อมฝึกสัมภาษณ์และสอนวิธีพูด ไปจนถึงการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเลยค่ะ 

ส่วนหนังสือเรียนของที่นี่จะเป็นหนังสือที่โรงเรียนทำขึ้นเองค่ะ

ชื่อ : TOYO Language School
เวลาทำการ : 9:00 – 21:00 น.
วันหยุด : วันอาทิตย์
รอบการสมัคร : ปีละ 4 รอบ (มกราคม – เมษายน – กรกฎาคม – ตุลาคม)
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น : 468,000 เยน (6 เดือน รวมค่าแรกเข้า)
รอบต่อๆ ไป ราคา 368,000 เยน * แบ่งจ่ายทีละ 3 เดือนได้
ที่อยู่ : 7-6-3 Nishikasai Edogawa-ku Tokyo 134-0088 Google Maps
วิธีเดินทาง : จากสถานี Nishi-Kasai เดินประมาณ 9 นาที
เว็บไซต์ : tls-japan.com/en

2. Human Academy Japanese Language School | สถานี Takadanobaba (高田馬場)

ต่อไป เราจะหาทุกคนไปที่สถานี Takadanobaba กันบ้าง เป็นสถานีที่ถือว่าอยู่ใกล้ย่านใหญ่ๆ พอสมควร เพราะอยู่ห่างจากสถานีชินจูกุและอิเคะบุคุโระเพียง 2 สถานีเท่านั้น แถวนี้เป็นย่านนักเรียนนักศึกษา จึงมีโรงเรียนสอนพิเศษอยู่มากมาย

บรรยากาศโดยรอบ

เมื่อเดินผ่านประตูตรวจบัตรออกมา ก็จะพบกับร้านสะดวกซื้อ KIOSK และพอเดินออกจากตัวสถานีไป ก็จะเจอภาพเพนต์กำแพงขนาดใหญ่ที่ถือเป็นกิมมิคของสถานีนี้ค่ะ ตรงนี้ให้หันซ้ายแล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ

ถ้าเดินถูกทางจะเจอร้านกาแฟแบบในภาพซ้ายค่ะ และเมื่อเดินพ้นใต้สะพานออกมาก็จะพบถนนสายเดียวที่เรียงรายไปด้วยร้านอาหาร และสถานที่สำหรับไปกินดื่มปาร์ตี้สังสรรค์กันอยู่มากมาย สมกับเป็นย่านเที่ยวหลังเลิกเรียนจริงๆ

นอกจากร้านอาหารแล้ว แถวนี้ยังมีร้านขายยาอย่าง Kusuri no Fukutaro ค่ะ และ Suruha รวมถึงธนาคาร SMBC ด้วย

และนี่ก็คือโฉมหน้าตึกของโรงเรียนสอนภาษา Human Academy ค่ะ ใครต้องการติดต่อเจ้าหน้าที่ก็ขึ้นลิฟท์ไปชั้น 5 ได้เลย

นอกจากนี้ ใกล้ๆ กับตึกเรียนก็ยังมีทั้งร้านขนม ร้านขายของมือสอง และร้านขายของแนวน่ารักๆ ให้ไปเดินดูเล่นๆ หลังเลิกเรียนด้วยค่ะ ถือว่าเป็นย่านที่มีคนพลุกพล่านพอสมควรทีเดียว

ค่าเล่าเรียนและรูปแบบคอร์ส

โรงเรียนนี้มีอยู่เพียง 3 สาขาทั่วญี่ปุ่น คือ ในโตเกียว,โอซาก้า, ซากะ จุดที่น่าสนใจของที่นี่ คือ มีคอร์สเรียนที่หลากหลายและพยายามซัพพอร์ตผู้เรียนอย่างเต็มที่

คอร์สระยะสั้น (สำหรับคนที่มีวีซ่าอยู่แล้ว)

มีทั้งแบบเรียนกลุ่ม, เรียนเป็นคลาส, เรียนเดี่ยว และคลาสเรียนออนไลน์ เช่น

  • หลักสูตรเร่งรัดสำหรับการสอบ JLPT มีคลาสเรียนในวันเสาร์ เหมาะสำหรับคนทำงาน
  • หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นสำหรับการใช้งานทางธุรกิจ (Business Japanese Course)
  • หลักสูตรเตรียมสอบ EJU ที่ต้องใช้ในการเข้ามหาวิทยาลัยญี่ปุ่น
  • หลักสูตรสอนวาดการ์ตูนญี่ปุ่นด้วย (Illustration and Character Design Course)

คอร์สระยะยาว (สำหรับคนที่ต้องการให้โรงเรียนช่วยขอวีซ่า)

หลักสูตรเน้นการเตรียมตัวสำหรับเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย โรงเรียนสอนวิชาเฉพาะทาง และเข้าทำงานในบริษัทญี่ปุ่นเป็นหลัก

หลักสูตรอื่นๆ

  • หลักสูตรสอนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่น
  • หลักสูตรเรียนภาษาผ่านการ์ตูนและภาพยนตร์
  • ฯลฯ
ชื่อ : Human Academy Japanese Language School
เวลาทำการ : 9:00 – 18:00 น.
วันหยุด : วันอาทิตย์
รอบการสมัคร : ปีละ 4 รอบ (มกราคม – เมษายน – กรกฎาคม – ตุลาคม)
* อาจต้องสมัคร 3 – 6 เดือนล่วงหน้า กรุณาตรวจสอบกับทางโรงเรียน
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น : คอร์สเรียนระยะสั้น x0,000 – 100,000 เยน (ขึ้นอยู่กับหลักสูตรและจำนวนชั่วโมง)
คอร์สเรียนระยะยาว เริ่มต้นที่ 987,250 เยน (1 ปี 3 เดือน ไม่รวมค่าลงทะเบียน)
* ยิ่งระยะเวลานาน ราคาจะยิ่งถูกลง
ที่อยู่ : Waseda Yobiko Bldg. 13ji Hall 5F, 4-9-9 Takadanobaba,
Shinjuku-ku Tokyo Google Maps
วิธีเดินทาง : จากรถไฟ JR / Seibu Shinjuku-line / Tozai สถานี Takadanobaba เดินประมาณ 3 นาที
เว็บไซต์ : https://hajl.athuman.com/e/?code=130071

3. ABK College | สถานี Sengoku (千石)

มาต่อกันที่โรงเรียนสอนภาษาที่ค่อนข้างเป็นที่รู้จักในประเทศไทย ที่นี่มีคนไทยมากเป็นอันดับที่ 2 และมักจะมีบริษัทญี่ปุ่นติดต่อมาเมื่อต้องการหาคนไทยที่อยากทำงานในบริษัทญี่ปุ่นด้วย โรงเรียนนี้ตั้งอยู่ที่สถานี Sengoku ห่างจากตัวเมืองพอสมควรแต่ก็สามารถเดินทางไปได้อย่างสะดวกด้วยรถไฟใต้ดินสาย Mita Line

บรรยากาศโดยรอบ

เมื่อลงรถไฟแล้วให้ใช้ทางออก A1 ซึ่งจะอยู่ใกล้โรงเรียนมากที่สุด ระหว่างทางในตัวสถานีก็มีตู้ ATM ของเซเว่นให้ใช้ด้วย ใครลืมพกเงินสดมาก็ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ

เมื่อเดินขึ้นมาก็จะถนนกว้างโล่งๆ แบบนี้เลยค่ะ อย่างที่บอกว่าย่านนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองจึงดูเงียบสงบกว่าโรงเรียนก่อนหน้านี้พอสมควร

ตรงทางออกนี้ หากคุณเลี้ยวซ้ายก็จะเจอร้านแฟรนไชส์ข้าวกล่องราคาประหยัดชื่อ Kitchen Origin และร้านสะดวกซื้อ Family Mart และตู้ถ่ายรูปอัตโนมัติให้บริการ ถือว่ามีความสะดวกครบครันทีเดียว

แต่สำหรับโรงเรียนที่เราจะไป จะต้องเลี้ยวขวาแล้วเดินเข้าซอยไปค่ะ

ซอยของโรงเรียนก็ค่อนข้างสงบเช่นกัน มีสนามกีฬาอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ และเมื่อเดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอร้านสะดวกซื้อเซเว่นอยู่ระหว่างทางค่ะ

เดินตรงมาเรื่อยๆ ไม่เกิน 5 นาทีก็จะเจอโรงเรียนตั้งอยู่ทางขวามือค่ะ

ค่าเล่าเรียนและรูปแบบคอร์ส

หลักสูตรของโรงเรียนนี้จะเน้นการพัฒนาและฝึกฝนภาษาญี่ปุ่นโดยเฉพาะ มีคอร์สเรียนอยู่ทั้งหมด 5 แบบซึ่งจะแตกต่างกันไปตามระยะเวลาเรียนและความสามารถทางภาษาของผู้เรียน เนื่องจากเป็นคอร์สเรียนระยะยาวทั้งหมด ทางโรงเรียนจึงสามารถช่วยเหลือนักเรียนในการขอวีซ่าได้

หลักสูตรสำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่น

  • 1 ปี
  • 1 ปี 6 เดือน
  • 2 ปี

หลักสูตรสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่น

  • 1 ปี 3 เดือน
  • 1 ปี 9 เดือน
  • สามารถลงเรียนหลักสูตรสำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานได้ทุกคอร์ส

ทุกหลักสูตรจะมีการฝึกภาษาอย่างเข้มข้นทุกทักษะ ทั้งฟัง – พูด – อ่าน – เขียน เพื่อเตรียมความพร้อมนักเรียนที่สำหรับการสอบต่างๆ เช่น JLPT, EJU, BJT (สอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นที่ใช้เชิงธุรกิจ) และการสอบเข้ามหาวิทยาลัย มีสอนทั้งการเขียนเชิงวิชาการ, การประชุม, การนำเสนองานและการสัมภาษณ์เข้าสถาบันการศึกษาต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีการแนะแนวทางเตรียมสอบเข้าสถาบันการศึกษาอย่างวิธีเขียนแผนงานวิจัย, การหาอาจารย์ที่ปรึกษา ฯลฯ อีกมากมายด้วย

โรงเรียนนี้มีการเรียนการสอนทุกวันตั้งแต่จันทร์ – ศุกร์ วันละ 4 คาบ คาบละ 45 นาที เริ่ม 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น และใช้หนังสือเรียนที่ทำขึ้นเองในการสอนซึ่งก็จัดว่าเป็นหนังสือที่ค่อนข้างดีทีเดียว อย่างเช่น TRY หนังสือเตรียมสอบภาษาญี่ปุ่นยอดนิยมที่ได้รับการแปลเป็นภาษาไทย ก็เป็นหนังสือของสถาบันแห่งนี้ค่ะ

ชื่อ : ABK College
เวลาทำการ : วันจันทร์ – ศุกร์ 9:00 – 17:00 น.
วันเสาร์ 9:00 – 14:00 น.
รอบการสมัคร : ปีละ 4 รอบ (เมษายน – กรกฎาคม – ตุลาคม – มกราคม)
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น : 720,000 เยน (1 ปี รวมค่าสอบเข้าและค่าแรกเข้า)
* แบ่งจ่ายทีละครึ่งได้ในราคา 310,000 เยนต่อครั้ง
วันหยุด : วันอาทิตย์
ที่อยู่ : Honkomagome 2-12-12, Bunkyo-ku, Tokyo, 113-0021 Google Maps
วิธีเดินทาง : จากรถไฟใต้ดินสาย Toei Mita Line สถานี Sengoku เดินประมาณ 3 นาที
เว็บไซต์ : https://www.abk.ac.jp/english/

4. Kudan Japanese Language School | สถานี Suidobashi (水道橋)

สำหรับโรงเรียนที่ 4 นี้ เราจะขอพาทุกคนเขยิบใกล้ตัวเมืองเข้าไปอีกสักหน่อย โรงเรียนนี้ตั้งอยู่ที่สถานี Suidobashi ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก “โตเกียวโดม” สถานที่จัดงานอีเวนต์ยอดนิยมแห่งหนึ่งเลย เมื่อลงจากรถไฟแล้ว ขอให้เดินไปฝั่งทางออก East Exit ค่ะ

บรรยากาศโดยรอบ

หลังออกจากช่องตรวจบัตรของสถานีมาแล้ว ก็จะเจอร้านสะดวกซื้อ Newdays เล็กๆ ตั้งอยู่ในบริเวณสถานี ใกล้ๆ กันมีตู้กดน้ำและตู้ขายร่มเผื่อกรณีฝนตกด้วย

บริเวณหน้าสถานีนี้อยู่ใต้สะพานค่ะ ดังนั้น เมื่อเดินออกไปก็ยังอยู่ในร่ม ย่านนี้มีบรรยากาศที่ค่อนข้างเงียบแต่ก็มีคนสัญจรไปมากันอยู่ตลอด โดยเฉพาะช่วงเย็นที่จะมีทั้งนักเรียนและเหล่ามนุษย์เงินเดือนมาขึ้นรถไฟกันมากพอสมควร

สำหรับโรงเรียนที่เราจะไป เมื่อเดินออกจากตัวสถานีมาแล้วให้เลี้ยวขวาแล้วข้ามถนนไปค่ะ

จากนั้นให้เดินตรงไปเรื่อยๆ ระหว่างทางจะเจอร้านสะดวกซื้อ Family Mart และเมื่อเดินต่อไปอีกเรื่อยๆ ก็จะเจอคาเฟ่ ร้านอาหารและร้านขายข้าวกล่อง รวมถึงร้านขายยาเล็กๆ ค่ะ

เมื่อมาถึงหัวมุมร้านขายยานี้ก็เลี้ยวขวาเดินเข้าซอยไปได้เลย

ในซอยนี้ถือว่าเงียบพอสมควรเลยค่ะ ไม่ค่อยมีผู้คนผ่านไปมา ระหว่างทางมีร้านขายแว่นและร้านขายข้าวดงบุริอยู่ตรงมุมด้วย ถึงตรงนี้ให้เลี้ยวซ้ายค่ะ

สำหรับซอยนี้จะมีจุดสังเกตเป็นร้าน Family Mart ขนาดใหญ่อยู่บนฝั่งตรงข้าม ซึ่งตึกเรียนของ Kudan Japanese Language School จะอยู่ทางซ้ายของร้านค่ะ

ที่หน้าตึกจะมีป้ายนี้อยู่ เข้าไปแล้วก็เลี้ยวซ้ายเดินเข้าโรงเรียนไปได้เลย เป็นห้องเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก แต่ด้านในจะมีการแบ่งโซนห้องเรียนต่างๆ เอาไว้ค่ะ

ค่าเล่าเรียนและรูปแบบคอร์ส

โรงเรียนนี้มีคอร์สเรียนที่หลากหลายพอสมควรซึ่งทั้งหมดจะเน้นจุดประสงค์ในการใช้งานเป็นหลัก เช่น

หลักสูตรพื้นฐาน

  • Conversation Course สำหรับฝึกการสนทนาและการเตรียมตัวเพื่อสัมภาษณ์สมัครงานต่างๆ ทั้งงานพิเศษและงานประจำ
  • Intensive Course สำหรับผู้ที่ต้องการหางานทำในบริษัทญี่ปุ่น หรือ ผู้ที่แต่งงานกับคนญี่ปุ่นและคนที่จำเป็นจะต้องใช้ทักษะการเขียน – อ่านในเอกสารทางการ เอกสารทางการแพทย์ต่างๆ หรือติดต่อกับสถาบันและองค์กรต่างๆ
  • Hiragana & Katakana Course และ Kanji Course สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้คำศัพท์และตัวอักษรญี่ปุ่นโดยเฉพาะ

หลักสูตรเพิ่มเติม (Special Course)

เป็นหลักสูตรที่น่าสนใจของโรงเรียนนี้เลยก็ว่าได้ โดยจะมีการแยกย่อยลงไปตามหัวข้อเฉพาะทาง เช่น

  • คอร์สสอนวาดการ์ตูนญี่ปุ่น
  • คอร์สพิธีชงชาญี่ปุ่น
  • คอร์สเรียนทำอาหาร
  • คอร์สภาษาญี่ปุ่น 160 ชั่วโมงสำหรับผู้เริ่มต้น (ออนไลน์)

นอกจากนี้ ยังมี Job Hunting Support & Business Japanese Course เป็นหลักสูตรออนไลน์ที่จะช่วยซัพพอร์ตการหางานในประเทศญี่ปุ่นอย่างเข้มข้น โดยจะเรียนทั้งหมด 3 เดือน สัปดาห์ละ 3 วัน (รวม 6 คาบ) ราคาคอร์สรวมตำราเรียนแล้วจะอยู่ที่ 94,000 เยน สอนทั้งการใช้ภาษาสุภาพ, มารยาทการปฏิบัติในวงการธุรกิจ, ประเภทวีซ่าสำหรับคนหางาน, การนำเสนอไอเดียและการติดต่อเจรจาต่างๆ รวมถึงให้การซัพพอร์ตในการเขียนเรซูเม่สมัครงานและเตรียมตัวสัมภาษณ์ด้วย ถือว่าน่าสนใจมากทีเดียว

ชื่อ : Kudan Japanese Language School
เวลาทำการ : 9:00 – 18:00 น.
วันหยุด : วันเสาร์ – อาทิตย์, วันหยุดนักขัตฤกษ์
รอบการสมัคร : หลักสูตรพื้นฐาน ปีละ 4 รอบ (เมษายน – กรกฎาคม – ตุลาคม – มกราคม)
* ที่เหลือขึ้นอยู่กับหลักสูตร
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น : 94,000 เยน (คอร์ส)
ที่อยู่ : Teito Misakicho Building 2-7-10 Misakicho, Kanda, Chiyoda-ku,
Tokyo, 101-0061 Google Maps
วิธีเดินทาง : จากรถไฟ JR Sobu Line สถานี Suidobashi เดินประมาณ 4 นาที
จากรถไฟใต้ดินสถานี Jimbocho ทางออก A4 เดินประมาณ 8 นาที
จากรถไฟใต้ดินสถานี Kudanshita ทางออก 5 เดินประมาณ 9 นาที
จากรถไฟใต้ดินสาย Toei Mita Line สถานี Suidobashi ทางออก A2 เดินประมาณ 5 นาที
เว็บไซต์ : https://www.kudan-japanese-school.com/

5. Genki Japanese Language and Culture School | สถานี Shinjuku–sanchome (新宿三丁目)

สำหรับโรงเรียนสุดท้ายนี้ เราจะขอพาทุกคนไปที่ย่านชินจูกุค่ะ เป็นโรงเรียนเล็กๆ ที่อยู่ในย่านเมืองใหญ่ โรงเรียนนี้อยู่ใกล้กับศาลเจ้าฮานะโซโนะที่มีชื่อเสียง สามารถนั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro ไปลงที่สถานี Shinjuku–sanchome แล้วใช้ทางออก C7 หรือ E2 ก็ได้

บรรยากาศโดยรอบ

หากคุณใช้ทางออก C7 จะเดินนานกว่าเล็กน้อย แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งตู้ ATM ในบริเวณสถานี และร้านรวงต่างๆ บนถนน เริ่มจากร้านสะดวกซื้อ Family Mart และเมื่อเดินตรงไปยังถนนใหญ่ก็จะได้เห็นร้านสะดวกซื้อ Starbucks รวมถึงร้านขายรองเท้า ABC–Mart อยู่บนฝั่งตรงข้ามด้วย ตรงนี้หากคุณไม่ได้ข้ามถนนไปก็สามารถเลี้ยวขวาเข้าซอย ก่อนจะข้ามทางม้าลายไปยังฝั่งตรงข้ามที่เป็นตึก Nomura ได้เลยค่ะ

เข้าซอยมาแล้วก็เดินตรงไปเรื่อยๆ ตรงนี้จะมีจุดสังเกตอยู่ที่ป้ายสีแดงของ Nomura ค่ะ เมื่อเห็นป้ายนี้ก็ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยแล้วเดินตรงไปจนสุดทาง (ก่อนถึงบริเวณทางเดินของศาลเจ้า) ตึกของโรงเรียนจะอยู่ทางขวามือค่ะ

* ในกรณีที่คุณใช้ทางออก E2 จะมาออกแถวนี้พอดีค่ะ เมื่อออกมาแล้วให้เลี้ยวขวา เดินประมาณ 1 – 2 นาทีก็จะพบซอยนี้เลย อย่างไรก็ตาม ซอยนี้ค่อนข้างเงียบสนิทและมืด ดังนั้น หากใครไม่สะดวกใจกับบรรยากาศเช่นนี้ เราขอแนะนำให้หาเวลาเรียนเป็นช่วงเช้า – กลางวันค่ะ

และนี่ก็คือโฉมหน้าของตึกเรียนค่ะ มาถึงก็กดลิฟท์ขึ้นไปชั้น 3 ได้เลย

ค่าเล่าเรียนและรูปแบบคอร์ส

คอร์สเรียนของโรงเรียนนี้ถูกออกแบบมาสำหรับนักเรียนต่างชาติที่มีใจรักในวัฒนธรรมญี่ปุ่นโดยเฉพาะค่ะ เพราะจะมีการเรียนภาษาแบบเน้นเนื้อหาเกี่ยวกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นทั้งแบบดั้งเดิมและ Pop Culture เป็นการเรียนภาษาผ่านประสบการณ์และกิจกรรมต่างๆ ที่ทางโรงเรียนจัด โดยจะเน้นการ Input (เช่น เรียนแกรมม่า) และ Output (ฝึกพูด – เขียน) เป็นหลักเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ทางภาษาอย่างสมดุลและสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ แต่จะไม่เน้นการติวสอบมากเท่าโรงเรียนที่เราแนะนำไปก่อนหน้านี้ค่ะ

คอร์สเรียนที่นี่แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ

  • Core Japanese Language Course เน้นการเรียนแกรมม่าและพัฒนาทักษะการฟัง – พูด – อ่าน – เขียน ราคา 33,000 เยนต่อสัปดาห์
  • Modules & Add – Ons มีทั้งสอนแบบตัวต่อตัว และเลือกเรียนตามวัฒนธรรมที่สนใจ ราคาเริ่มต้น 10,000 เยนต่อสัปดาห์
  • แพ็กเกจและคอร์สเรียนแบบระยะยาว สำหรับผู้ที่ต้องการฝึกภาษาอย่างจริงจัง หรือผู้ที่ต้องการทำงานพิเศษหรือหาประสบการณ์ระหว่างอยู่ที่ญี่ปุ่นด้วย (นานสุด 1 ปี 6 เดือน)
  • คอร์สเรียนซัมเมอร์ สำหรับน้องๆ ที่สนใจมาเรียนในโรงเรียนสอนภาษาที่ญี่ปุ่น ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 590,000 เยน (6 เดือน)

นอกจากนี้ โรงเรียนนี้ยังมีนักเรียนต่างชาติจากโซนตะวันตกค่อนข้างมาก ดังนั้น หากคุณลงเรียนกลุ่มและเข้าร่วมกิจกรรมบ่อยๆ ก็มีโอกาสที่จะได้เพื่อนต่างชาติกลับไปด้วยเช่นกัน

ชื่อ : Genki Japanese Language and Culture School
เวลาทำการ : 9:00 – 18:00 น.
รอบการสมัคร : ขึ้นอยู่กับหลักสูตร
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น : 10,000 ต่อสัปดาห์ (หลักสูตร Modules & Add Ons)
* ราคาขึ้นอยู่กับหลักสูตรหรือจำนวนชั่วโมง
วันหยุด : วันเสาร์ – อาทิตย์
ที่อยู่ : Hanazono Building 3F, 5-17-6 Shinjuku Shinjuku-ku,
Tokyo 160-0022 Google Maps
วิธีเดินทาง : จากรถไฟใต้ดินสาย Marunouchi สถานี Shinjuku-sanchome เดินประมาณ 6 นาที
จากสถานี Shinjuku เดิน 10 นาที
เว็บไซต์ : www.genkijacs.com

ส่งท้าย

จบกันไปแล้วกับการพาชม 5 โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นที่น่าสนใจในโตเกียว ทุกคนคงเห็นแล้วว่าทั้งทำเลที่ตั้งและรูปแบบคอร์สเรียนมีผลต่อราคาค่าเรียนขนาดไหน หากเป็นโรงเรียนที่อยู่นอกตัวเมืองก็จะมีราคาถูกกว่า แต่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและทุกคนสามารถมั่นใจได้ว่าจะไปเรียนกันได้อย่างสบายใจ เราขอแนะนำให้เลือกโรงเรียนที่มีหลักสูตรที่สามารถเตรียมความพร้อมให้คุณไปถึงเป้าหมายในอนาคตได้ดีที่สุด และมีความสุขกับการเก็บเกี่ยวประสบการณ์การใช้ชีวิตในญี่ปุ่นได้อย่างเต็มที่นะคะ

ส่วนใครที่อยู่นอกโตเกียวหรือรู้สึกว่าโรงเรียนทั้ง 5 แห่งนี้ยังไม่ตรงใจ ก็สามารถตามไปอ่านบทความ คู่มือเลือก “โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น” ในญี่ปุ่น เพื่อดูข้อควรรู้ สิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาในการเลือกโรงเรียน และเคล็ดลับประหยัดเงินกันได้ค่ะ

แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ 🙂

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊กได้เลย !

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

Oyraa
0 Shares: