“คู่มือการส่งของ” ส่งไปญี่ปุ่น, ส่งจากญี่ปุ่น, ส่งภายในประเทศญี่ปุ่น

คุณเคยอยากส่งของไปญี่ปุ่น ส่งจากญี่ปุ่นไปยังประเทศต่างๆ หรือส่งไปมาภายในประเทศญี่ปุ่นไหม? ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปชมวิธีส่งของแต่ละรูปแบบกันอย่างละเอียดว่าต้องทำอย่างไรบ้าง! ไม่ว่าคุณจะถูกเพื่อนหรือครอบครัวฝากซื้อของ ขายของออนไลน์ หรือแค่ต้องการจะเซอร์ไพรส์ใครบางคน ก็คงต้องใช้บริการส่งของในรูปแบบต่างๆ อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจข้อมูลทั้งหมดอย่างละเอียดก็อาจเป็นเรื่องยุ่งยากที่ทำให้คุณปวดหัวได้ แล้วไหนจะเรื่องภาษาที่ไม่ใช่ภาษาบ้านเกิดของคุณอีก ตามมาอ่านบทความนี้เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีและสถานที่ส่งพัสดุขนาดต่างๆ กันเลย!
Oyraa

การกรอกที่อยู่ญี่ปุ่น

อันดับแรก เรามาดูเรื่องของ “ที่อยู่” กัน นี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการส่งพัสดุหรือจดหมายทุกรูปแบบ ด้านล่างนี้เป็นตัวอย่างการเขียนที่อยู่ในญี่ปุ่น ซึ่งมีทั้งแบบภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ

ภาษาญี่ปุ่น
〒107-0061
東京都港区北青山3-2-1 
ABビルディング2階
山田花子様

ภาษาอังกฤษ
Hanako Yamada
2F, AB Bldg.
3-2-1, Kita Aoyama, Minato-ku
Tokyo 107-0061

เมื่อแยกเป็นส่วนๆ แต่ละส่วนจะหมายถึงข้อมูลต่อไปนี้:

  • 〒107-0061 = รหัสไปรษณีย์
  • 東京都 = โตเกียว (จังหวัด)
  • 港区 = มินาโตะคุ (เขต)
  • 北青山 = คิตะอาโอยาม่า (แขวง)
  • 3-2-1 = หมายเลขถนน
  • ABビルディング = AB Bldg. (ชื่ออาคาร)
  • 2階 = 2F (ชั้น)
  • 山田花子様 = Hanako Yamada (ชื่อและคำที่ใช้เรียกเพื่อแสดงความเคารพ)

เมื่อเขียนแบบญี่ปุ่น ให้จำไว้ว่าที่อยู่จะเริ่มด้วยรหัสไปรษณีย์และจบด้วยชื่อผู้รับ ซึ่งตรงข้ามกับการเขียนแบบอังกฤษ และควรระวังเรื่องการเขียนหมายเลขไม่ให้กลับหลัง นอกจากนี้ ยังควรเติม “様 (sama)” หรือคำที่ใช้เรียกเพื่อแสดงความเคารพต่อท้ายชื่อผู้รับด้วย

หากคุณส่งของภายในญี่ปุ่น จะเขียนแบบญี่ปุ่นหรือแบบอังกฤษก็ได้ตามสะดวก แต่หากคุณส่งของไปต่างประเทศ ส่วนใหญ่จะต้องเขียนเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น เมื่อคุณได้รับใบกรอกรายละเอียดมา ให้มองหาช่องสำหรับเขียนที่อยู่ผู้ส่ง / ที่อยู่ส่งคืน (กรณีตีกลับ) ซึ่งมักจะอยู่ด้านล่างของช่องที่อยู่ผู้รับ หากคุณหาไม่พบ ให้เขียนที่อยู่ไว้ที่ด้านหลังของพัสดุ และที่อยู่ผู้รับไว้ด้านหน้า นอกจากนี้ ในกรณีที่คุณส่งของจากประเทศต่างๆ ไปญี่ปุ่น ก็อย่าลืมเขียนคำว่า JAPAN ต่อท้ายที่อยู่ของผู้รับด้วย

การส่งของภายในประเทศญี่ปุ่น

Japan Post

Japan Post postboxes
cowardlion / Shutterstock.com

Japan Post ทำธุรกิจเกี่ยวกับการจัดส่งจดหมายและพัสดุ รวมถึงทำหน้าที่ดูแลที่ทำการไปรษณีย์หลายแห่งในญี่ปุ่นสมชื่อ จุดสังเกตของที่ทำการไปรษณีย์ คือ สัญลักษณ์ 〒 สีแดง ซึ่งเป็นทั้งสัญลักษณ์ที่อยู่บนกล่องจดหมายและสัญลักษณ์หน้ารหัสไปรษณีย์ในการเขียนที่อยู่แบบญี่ปุ่น

Japan Post มีตัวเลือกสำหรับการส่งของภายในประเทศญี่ปุ่นมากมาย ส่วนใหญ่จะใช้เวลาจัดส่งประมาณ 1 – 2 วัน มาดูกันดีกว่า ว่าตัวเลือกที่คนนิยมใช้กันมากที่สุดซึ่งมีระบบติดตามพัสดุด้วยหมายเลขลงทะเบียน (お問い合わせ番号) นั้นมีอะไรบ้าง

  1. Yu – Pack

บริการส่งพัสดุแบบมาตรฐานสำหรับพัสดุชนิดที่ไม่ได้มีรูปทรง ขนาด หรือน้ำหนักพิเศษอะไร หลังจากที่คำนวณค่าจัดส่ง* และเวลาจัดส่ง* อย่างคร่าวๆ แล้ว ก็เพียงแค่แพ็กของที่คุณจะส่งลงกล่อง กระเป๋าหรือห่อให้เรียบร้อยแล้วนำไปส่ง ณ ที่ทำการไปรษณีย์ หากคุณหาอุปกรณ์สำหรับแพ็กของไม่ได้ ก็สามารถซื้อได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์เช่นกัน แต่ก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้นด้วย

* ข้อมูลเพิ่มเติมเป็นภาษาญี่ปุ่น

Box with measurements
PIXTA

ในกรณีของ Yu – Pack คุณสามารถเลือกบริการให้มารับพัสดุถึงหน้าประตูบ้าน (集荷サービス) ผ่านทางแบบฟอร์มออนไลน์หรือโทรศัพท์ได้ หากคุณเลือกที่จะโทรเข้าไป ให้หาที่ทำการไปรษณีย์ใกล้บ้านคุณ และตรวจสอบว่ามีเบอร์โทรศัพท์สำหรับบริการรับพัสดุถึงบ้าน (集荷電話番号) หรือไม่ นอกจากนี้ คุณยังสามารถขอให้พนักงานนำของไปส่งตามร้านสะดวกซื้อ Lawson, Ministop, Seicomart, และ Lawson Store 100 แล้วไปรับทีหลังได้อีกด้วย และหากคุณต้องการให้ของไปถึงมือผู้รับภายในวันเดียวกัน ก็สามารถแจ้งพนักงานได้อีก จึงทำให้ Yu – Pack กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการส่งของขวัญ ปกติแล้วจะสามารถกำหนดวันได้ประมาณ 2 – 10 วันให้หลัง แต่อย่าคาดหวังว่าพัสดุของคุณจะถูกส่งไปถึงอย่างรวดเร็วเพราะมันขึ้นอยู่กับตารางส่งของคนส่งของ ซึ่งอาจจะใช้เวลาอยู่สักหน่อยกว่าของจะไปถึง เพราะฉะนั้นคุณจึงควรวางแผนเผื่อเวลาไว้ด้วย

ขนาด : ยาว x กว้าง x สูง ไม่เกิน 170 เซนติเมตร
น้ำหนัก : ไม่เกิน 25 กิโลกรัม
ราคา : คิดตามความยาว x กว้าง x สูงของพัสดุ
● ภายในจังหวัดเดียวกัน : 810 – 2,340 เยน
● จากโตเกียวไปโอซาก้า : 970 – 2,530 เยน

  1. Yu – Packet

เหมาะสำหรับของที่เล็กและบาง เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับและแผ่นซีดี Yu – Packet เป็นตัวเลือกแสนสะดวกสำหรับทุกคนที่ต้องการส่งของเบาๆ จึงได้รับความนิยมเป็นพิเศษในหมู่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ เพราะสามารถซื้อใบเขียนรายละเอียดการจัดส่งได้ล่วงหน้า และหลังจากที่แปะใบดังกล่าวลงบนพัสดุแล้ว ก็สามารถนำไปใส่ในตู้ไปรษณีย์ตอนไหน เวลาใดก็ได้ ซึ่งแปลว่าคุณไม่จำเป็นต้องรีบไปที่ทำการไปรษณีย์ในช่วงพักกลางวันหรือก่อนเวลาปิดทำการตอน 17:00 น. อีกต่อไป ในขณะเดียวกัน พัสดุก็จะถูกส่งไปที่กล่องจดหมายของผู้รับโดยตรง ทำให้ฝ่ายผู้รับไม่ต้องอยู่บ้านเพื่อรอเซ็นรับของด้วย

Woman packing a shirt
The_Molostock / Shutterstock.com

ขนาด : ความยาว x กว้าง x สูงรวมกันไม่เกิน 60 เซนติเมตร (กว้างไม่เกิน 34 ซม. สูงไม่เกิน 3 ซม.)
น้ำหนัก : ไม่เกิน 1 กิโลกรัม
ราคา : เกณฑ์ราคาคิดตามความสูงของกล่อง
● ไม่เกิน 1 เซนติเมตร : 250 เยน
● 1 – 2 เซนติเมตร : 310 เยน
● 2 – 3 เซนติเมตร : 360 เยน

  1. Letter Pack

อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับของที่มีน้ำหนักเบามากๆ บริการ Letter Pack มีกล่องกระดาษที่สามารถซื้อได้ล่วงหน้า เหมาะสำหรับของที่มีขนาดไม่เกินกระดาษ A4 หรือ 34 x 24.8 เซนติเมตร ซึ่งมีให้เลือกสองแบบด้วยกัน ได้แก่ Letter Pack Light ที่จะส่งลงในกล่องจดหมายของผู้รับเลย และ Letter Pack Plus ที่ต้องมีคนเซ็นรับของ แม้ว่าแบบแรกจะสะดวกกว่าสำหรับผู้รับ แต่แบบหลังก็ช่วยให้อุ่นใจในกรณีที่ต้องส่งของชิ้นสำคัญ ทั้งยังมาพร้อมบริการรับของถึงบ้านโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วย

กล่องกระดาษทั้ง 2 แบบสามารถซื้อได้จากที่ทำการไปรษณีย์ใกล้บ้าน หรือจะไปซื้อตามร้านสะดวกซื้อเพื่อส่งตรงนั้นเลยก็ได้ หรือไม่อย่างนั้น คุณก็สามารถไปส่งที่ตู้ไปรษณีย์ (เวลาใดก็ได้) และหากคุณต้องการติดตามพัสดุทีหลัง ก็อย่าลืมเก็บสติ๊กเกอร์ “Sender to Retain” เอาไว้ด้วยนะ

ขนาด : ยาวไม่เกิน 34 x กว้างไม่เกิน 24.8 x สูงไม่เกิน 3 เซนติเมตร
น้ำหนัก : ไม่เกิน 4 กิโลเมตร
ราคา : 370 เยน (สำหรับ Light), 520 เยน (สำหรับ Plus)

ตัวเลือกอื่นๆ ของ Japan Post

หากตัวเลือกที่กล่าวมายังไม่ครอบคลุมพัสดุที่คุณต้องการส่ง เราขอแนะนำให้ลองตัวเลือก Yu-Pack แบบมีจุดประสงค์เฉพาะซึ่งมีทั้งบริการส่งอาหารแช่เย็น ส่งด่วนแบบวันเดียวถึง และส่งอุปกรณ์เล่นกอล์ฟหรือสกี หากคุณส่งของบ่อยและเชี่ยวชาญทั้งภาษาญี่ปุ่นและการใช้บริการบนอินเทอร์เน็ต เราขอแนะนำบริการออนไลน์ของ Japan Post ที่ชื่อว่า Click Post ซึ่งก็ช่วยอำนวยความสะดวกได้มากเช่นกัน เนื่องจากคุณสามารถจ่ายค่าส่งและออกใบนำส่งผ่านทางออนไลน์ได้ (ภาษาญี่ปุ่น) นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่ขายของผ่านเว็บไซต์ Mercari โดยเฉพาะก็สามารถลองใช้บริการ Yu-yu Mercari-bin ได้ด้วยเช่นกัน ระบบนี้จะมีการคัดกรองต่างๆ เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับทั้งผู้ส่งและผู้รับด้วย

Kuroneko Yamato

Kuroneko Yamato delivery van
NP27 / Shutterstock.com

Kuroneko Yamato เป็นบริษัทที่โด่งดังจากบริการรับของถึงบ้านที่เรียกว่า ทัคคิวบิน (宅急便) หรือ TA-Q-BIN ในภาษาอังกฤษ คนทั่วไปจะเรียกกันอย่างย่อๆ ว่า คุโรเนโกะ (แมวดำ) และโลโก้ของบริษัทก็เป็นรูปแม่แมวคาบลูกแมวซึ่งสื่อถือความระมัดระวังในการส่งของนั่นเอง

บริษัท Kuroneko Yamato ต่างจาก Japan Post ตรงที่จะเปิดให้บริการตลอดทั้งปี แต่ก็อาจมีบางสาขาที่ปิดในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์

ปกติแล้ว TA-Q-BIN จะใช้เวลาจัดส่งภายใน 1 – 2 วัน แต่คุณก็สามารถระบุวันและเวลาที่ต้องการได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม การส่งแบบวันเดียวถึงจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยหลังจากเช็กค่าส่งเรียบร้อยแล้ว คุณต้องไม่ลืมติดต่อไปยังบริษัท (ผ่านทางเว็บไซต์หรือโทรศัพท์ก็ได้) เพื่อแจ้งให้พวกเขามารับพัสดุที่บ้านคุณ หรือไม่ก็เดินทางไปสำนักงานคุโรเนโกะสาขาใกล้บ้านเพื่อนำพัสดุไปส่งด้วยตนเองก็ได้ หากเป็นวิธีหลังก็จะได้รับส่วนลดค่าส่ง 100 เยน นอกจากนี้ หากคุณสมัครเป็นสมาชิกหรือใช้วิธีชำระค่าส่งแบบไร้เงินสด (เช่น จ่ายผ่านบัตร IC) ก็จะได้รับส่วนลดเล็กน้อยด้วยเช่นกัน

ในกรณีของพัสดุน้ำหนักเบา คุณสามารถลดค่าส่งลงได้อีกวิธีด้วยการเลือกใช้กล่อง TA-Q-BIN Compact ซึ่งเป็นกล่องที่มีขนาดความยาว x กว้าง x สูงรวมกันไม่เกิน 60 ซม. ในกรณีที่พัสดุของคุณมีขนาดหรือน้ำหนักมากเกินไป ให้ลองคำนวณค่าจัดส่งสำหรับบริการ Yamato Bin ในอีกระบบหนึ่งของบริษัทนี้ดู

Kuroneko Yamato mailing slip
Kuroneko Yamato

ไม่ว่าคุณจะส่งพัสดุด้วยวิธีไหน สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือการกรอกใบนำส่ง คุณสามารถรับใบนี้ล่วงหน้าได้โดยไปติดต่อขอใบ โอคุริโจ (送り状) จากที่ทำการของคุโรเนโกะ หรือจะรอรับจากคนส่งของตอนที่เขามารับพัสดุที่บ้านคุณเลยก็ได้

อีก 2 วิธีที่ช่วยประหยัดเวลาได้ดี คือ กรอกข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟน และ พิมพ์ใบนำส่งที่บ้านของคุณเอง (สำหรับผู้ที่เป็นสมาชิกคุโรเนโกะเท่านั้น) แต่ก็มีข้อเสียอยู่ที่หน้าเว็บเป็นภาษาญี่ปุ่น คุณจึงต้องรู้ภาษาญี่ปุ่นดีพอสมควร หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องมีแอพพลิเคชันสำหรับแปลภาษา นอกจากนี้ คุณก็ควรจดเลขพัสดุไว้สำหรับใช้ติดตามพัสดุด้วย

ขนาด : ยาว x กว้าง x สูง รวมกันไม่เกิน 160 เซนติเมตร
น้ำหนัก : ไม่เกิน 25 กิโลกรัม
ราคา : คิดตามความยาว x กว้าง x สูง (รวมกันไม่เกิน 160 ซม.) หรือคิดตามน้ำหนัก (ไม่เกิน 25 กก.)
● ภายในจังหวัดเดียวกัน: เริ่มต้น 930 เยน
● จากโตเกียวไปโอซาก้า: 1,040 – 2,180 เยน

Sagawa Express

Sagawa เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีชื่อเสียงในเรื่องบริการรับของถึงบ้าน โดยมีชื่อเล่นว่า ทาคุไฮบิน (宅配便) บริษัทนี้ใช้เวลาจัดส่งพัสดุประมาณ 1 – 2 วัน ตลอดทั้งปี และมีเพียงบางสาขาเท่านั้นที่จะปิดในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์เช่นเดียวกับ Kuroneko Yamato

คุณสามารถโทรเรียกให้ทางบริษัทมารับพัสดุถึงบ้านหรือจะเดินทางไปส่งเองที่สำนักงานหรือสาขาใกล้บ้านเพื่อให้ได้ส่วนลดก็ได้ อีกทั้งยังสามารถขอใบเขียนที่อยู่ล่วงหน้าได้ด้วย หรือจะรอรับจากพนักงานส่งโดยตรงเลยก็ได้เช่นกัน

Sagawa mailing slip
Sagawa Express

หากคุณต้องการให้พัสดุไปถึงในเวลาที่กำหนดไว้ ให้ลองสอบถามว่าในพื้นที่ของผู้รับของคุณนั้นมีบริการระบุเวลาส่ง (時間帯指定サービス) ด้วยไหม หลังส่งแล้ว คุณจะยังสามารถติดตามพัสดุได้โดยใส่หมายเลขพัสดุลงในหน้าเว็บนี้

นอกจากการส่งแบบธรรมดาแล้ว Sagawa ยังมีตัวเลือกพิเศษอื่นๆ ด้วย (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) เช่น ส่งอาหารแช่เย็นหรือชุดทางการ

  1. Hikyaku Express

อ่านว่า ฮิเคียคุ ทาคุไฮบิน (飛脚宅配便) เป็นตัวเลือกพื้นฐานสำหรับการส่งแบบเข้ามารับของที่บ้าน รองรับพัสดุที่มีน้ำหนักไม่เกิน 30 กิโลกรัม มีความยาว x กว้าง x สูงรวมกันไม่เกิน 160 เซนติเมตร นอกจากนี้ ยังมี Hikyaku Large Size Express (飛脚ラージサイズ宅配便) ที่รองรับน้ำหนักไม่เกิน 50 กิโลกรัม และมีขนาดโดยรวมไม่เกิน 260 เซนติเมตร สำหรับอัตราค่าจัดส่ง สามารถเช็กได้ที่นี่

ขนาด : ยาว x กว้าง x สูง รวมกันไม่เกิน 260 เซนติเมตร
น้ำหนัก : ไม่เกิน 50 กิโลกรัม
ราคา : คิดตามความยาว x กว้าง x สูง (รวมกันไม่เกิน 260 ซม.) หรือคิดตามน้ำหนัก (ไม่เกิน 50 กก.)
● ภายในจังหวัดเดียวกัน: เริ่มต้น 770 เยน
● จากโตเกียวไปโอซาก้า: เริ่มต้น 880 เยน

PIXTA
  1. Hikyaku Air Express

บริการจัดส่งของทางอากาศที่การันตีว่าจะถึงในวันถัดไป ไม่ว่าจะส่งไปจังหวัดใดในญี่ปุ่นก็ตาม อ่านออกเสียงว่า ฮิเคียคุ โคคูบิน (飛脚航空便) คุณสามารถเลือกได้ว่าจะให้พัสดุถึงในตอนเช้า กลางวัน หรือช่วงเวลาอื่นๆ ที่ต้องการในวันถัดไป โดยต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดที่ว่า คุณต้องนำพัสดุมาส่งภายในระยะเวลาที่ทางบริษัทกำหนด ส่วนเรื่องค่าจัดส่งจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเวลาที่คุณเลือก โดยช่วงกลางวันจะมีราคาถูกกว่าช่วงเช้าหรือช่วงเวลาที่เลือกแบบเจาะจง

ขนาด : ยาว x กว้าง x สูง รวมกันไม่เกิน 160 เซนติเมตร
น้ำหนัก : ไม่เกิน 30 กิโลกรัม
ราคา : คิดตามความยาว x กว้าง x สูง (รวมกันไม่เกิน 160 ซม.) หรือคิดตามน้ำหนัก (ไม่เกิน 30 กก.)
● จากโตเกียวไปโอซาก้า: เริ่มต้นที่ 1,914 เยน

การส่งของจากญี่ปุ่นไปต่างประเทศ

Japan Post

Street with Japan Post office sign and postbox
VTT Studio / Shutterstock.com

บริการส่งของไปต่างประเทศผ่าน Japan Post แบ่งออกเป็น 4 วิธีใหญ่ๆ ได้แก่ ส่งแบบ EMS, ส่งทางอากาศ (Air Mail), ส่งทางอากาศราคาประหยัด (Economy Air : SAL) และส่งทางภาคพื้น (Surface Mail) เราขอแนะนำให้เลือกโดยพิจารณาความสำคัญในเรื่องของระยะเวลาในการจัดส่ง ขนาดพัสดุ ค่าบริการจัดส่ง และตัวเลือกในการติดตามพัสดุ

สำหรับผู้ที่สับสนไม่รู้จะทำอย่างไรกับชุดข้อมูลทั้งหมดดี เราขอแนะนำให้เริ่มจากการคำนวณราคาและวันจัดส่ง เนื่องจากอาจมีบางพื้นที่ที่ไม่สามารถจัดส่งได้ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบสถานะปัจจุบันของประเทศฝั่งผู้รับไว้ด้วย นอกจากนี้ พัสดุที่ส่งไปต่างประเทศก็ยังมีข้อกำหนดที่เข้มงวดกว่าพัสดุภายในประเทศมาก คุณจึงควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าพัสดุของคุณไม่อยู่ในกลุ่มสิ่งของต้องห้ามก่อนทำการปิดกล่องพัสดุ แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะไม่ได้พยายามส่งของอย่างประทัดหรือยาฟอกขาวไปต่างประเทศอยู่แล้ว แต่ของใช้ในชีวิตประจำวันอย่างครีมกันแดด (ที่มีแอลกอฮอล์มากกว่า 24%) และแบตเตอรี่สำรองก็ถือว่าเป็นสิ่งของต้องห้ามเช่นกัน

เมื่อเตรียมตัวส่งพัสดุเรียบร้อยแล้ว ให้เดินทางไปยังที่ทำการไปรษณีย์ใกล้บ้านและแจ้งประเทศของผู้รับและวิธีการจัดส่งที่คุณเลือกให้พนักงานทราบ จากนั้นพวกเขาก็จะมอบใบสลิปแบบพิเศษสำหรับกรอกข้อมูลที่อยู่ การจัดส่ง และข้อมูลสำหรับขั้นตอนของกรมศุลกากร อย่างเช่น การระบุว่าสิ่งของข้างในมีอะไรบ้างและมูลค่าเท่าไร

Japan post mailing slip
Japan Post

เมื่อยืนยันกับพนักงานเรียบร้อยแล้วว่าพัสดุของคุณไม่มีสิ่งของอันตราย ก็เพียงแค่จ่ายเงินแล้วบอกลาพัสดุของคุณได้เลย! จากนั้น เวลาที่คุณสงสัยว่าพัสดุของคุณไปถึงไหนแล้ว ก็สามารถติดตามความคืบหน้าได้เพียงแค่กรอกหมายเลขพัสดุลงในบริการ Track and Trace Service ของ Japan Post

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เดือนมกราคม ค.ศ. 2021 เป็นต้นไป พัสดุที่ส่งด้วยใบจัดส่งที่เขียนด้วยมืออาจล่าช้าหรือถูกตีกลับโดยไม่มีการชำระเงินคืนได้เนื่องจากมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงกรณีนี้ คุณจำเป็นต้องกรอกรายละเอียดของพัสดุลงใน International Mail My Page Service ของ Japan Post ซึ่งจะส่งข้อมูลไปยังบริษัทจัดส่งของประเทศปลายทางและคุณสามารถสั่งพิมพ์ใบแปะหน้าออกมาได้เลย

  1. ทาง EMS

บริการที่เร็วแต่แพง อยู่ในระดับที่เหนือกว่าการส่งรูปแบบอื่นๆ แม้ว่าจะไม่สามารถส่งของมีค่า (เช่น เงิน อัญมณี ฯลฯ) ผ่าน EMS ได้ แต่ก็ยังสามารถส่งพัสดุแช่เย็นไปยังบางประเทศได้โดยต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

เวลาจัดส่ง : 2 – 4 วัน
น้ำหนัก : ไม่เกิน 30 กิโลกรัม
ราคา : คิดตามน้ำหนัก
● เอเชีย : เริ่มต้นที่ 1,400 เยน
● อเมริกาเหนือและกลาง / ตะวันออกกลาง / โอเชียเนีย : เริ่มต้นที่ 2,000 เยน
● ยุโรป : เริ่มต้นที่ 2,200 เยน
● อเมริกาใต้ / แอฟริกา : เริ่มต้นที่ 2,400 เยน

Delivery worker checking packages
BUNDITINAY / Shutterstock.com
  1. ทางอากาศ (Air Mail)

บริการนี้จัดส่งพัสดุทางอากาศ ทำให้มีค่าส่งที่ค่อนข้างสูง

เวลาจัดส่ง : 3 – 6 วัน
น้ำหนัก : ไม่เกิน 30 กิโลกรัม
ราคา : คิดตามน้ำหนัก
● เอเชียตะวันออก : เริ่มต้นที่ 1,700 เยน
● เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ / เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ : เริ่มต้นที่ 2,100 เยน
● อเมริกาเหนือและกลาง / ยุโรป / โอเชียเนีย / ตะวันออกกลาง : เริ่มต้นที่ 2,500 เยน
● อเมริกาใต้ / แอฟริกา : เริ่มต้นที่ 3,200 เยน

  1. ทางอากาศแบบราคาประหยัด (Economy Air : SAL)

บริการที่มีความสมดุลระหว่างความเร็วและค่าใช้จ่ายซึ่งเกิดการผสมผสานบริการขนส่งทางอากาศและการขนส่งภาคพื้น อย่าลืมต้องตรวจสอบล่วงหน้าว่าประเทศปลายทางของคุณอยู่ใน 39 ประเทศที่มีบริการ SAL หรือไม่

เวลาจัดส่ง : 6 – 13 วัน
ราคา : คิดตามน้ำหนัก
● เอเชียตะวันออก : เริ่มต้นที่ 1,800 เยน
● เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ / เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ : เริ่มต้นที่ 2,200 เยน
● อเมริกาเหนือและกลาง / ยุโรป / โอเชียเนีย / ตะวันออกกลาง : เริ่มต้นที่ 2,700 เยน
● อเมริกาใต้ / แอฟริกา : เริ่มต้นที่ 3,400 เยน

Japan Post Delivery Truck
Terence Toh Chin Eng / Shutterstock.com
  1. ทางภาคพื้น (Surface Mail)

บริการส่งที่ช้าแต่ถูกเนื่องจากใช้วิธีส่งทางบกและทะเล เนื่องจากพัสดุจะอยู่ในขั้นตอนการขนส่งเป็นระยะเวลานาน จึงควรแพ็กพัสดุให้หนาแน่นกว่าปกติ

เวลาจัดส่ง : 1 – 3 เดือน
ราคา : คิดตามน้ำหนัก
● เอเชียตะวันออก: เริ่มต้นที่ 1,600 เยน
● เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ / เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ : เริ่มต้นที่ 1,700 เยน
● อเมริกาเหนือและกลาง / ยุโรป / โอเชียเนีย / ตะวันออกกลาง : เริ่มต้นที่ 1,800 เยน
● อเมริกาใต้ / แอฟริกา : เริ่มต้นที่ 2,200 เยน

พัสดุขนาดเล็ก

แม้ว่าจะไม่ใช่วิธีการส่งที่แยกออกมาต่างหากจริงๆ แต่พัสดุขนาดเล็กก็เป็นตัวเลือกที่ดีมาก เพราะจะช่วยให้ส่งของที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาได้ในราคาที่ถูกลง เพียงแจ้งกับพนักงานว่าคุณต้องการส่งพัสดุขนาดเล็กผ่านทางอากาศ, ทางอากาศราคาประหยัด หรือทางภาคพื้นเท่านั้น หากพวกเขาไม่มีใบสำหรับการส่งแบบนี้โดยเฉพาะ คุณก็สามารถเขียนที่อยู่ลงบนซองพัสดุหรือพิมพ์ออกมาแล้วนำไปแปะโดยตรงเลย รวมถึงให้เขียนกำกับว่า “Small Packet” หรือ “Petit Pacquet” ที่มุมซ้ายบนของส่วนสำหรับเขียนที่อยู่การจัดส่งด้วย

Japan Post

เวลาจัดส่ง : เช่นเดียวกับส่งทางอากาศ, ทางอากาศราคาประหยัด, ทางภาคพื้น
ขนาด : ยาว x กว้าง x สูง รวมกันไม่เกิน 90 เซนติเมตร (ยาว 14 – 60 ซม. และกว้างเกิน 9 ซม.)
น้ำหนัก : ไม่เกิน 2 กิโลกรัม
ราคา : คิดตามน้ำหนักและวิธีการส่งโดยรวม
● ทางอากาศ : เริ่มต้นที่ 120 เยน
● ทางอากาศราคาประหยัด : เริ่มต้นที่ 160 เยน
● ทางภาคพื้น : เริ่มต้นที่ 130 เยน

Kuroneko Yamato

Kuroneko Yamato office doors
Ned Snowman / Shutterstock.com

บริการของ Kuroneko Yamato สำหรับการส่งพัสดุไปต่างประเทศ คือ International TA-Q-BIN เป็นบริการสุดอุ่นใจที่อาจมีการจำกัดเรื่องของที่สามารถส่งได้ในบางกรณี ตัวอย่างเช่น บางประเทศสามารถส่งอาหารแปรรูปออกนอกประเทศได้ ในขณะที่บางประเทศจะไม่สามารถส่งอาหารได้ทุกรูปแบบ ก่อนส่งจึงควรตรวจสอบอัตราค่าส่ง เวลาจัดส่งโดยประมาณ และสิ่งของต้องห้ามสำหรับประเทศของผู้รับ ในส่วนของสิ่งของที่ไม่สามารถส่งไปประเทศใดๆ ได้เลย สามารถตรวจสอบได้ที่นี่

สิ่งสำคัญที่ควรทราบไว้ คือ หากจะใช้บริการ International TA-Q-BIN คุณจะต้องโทรไปยืนยันก่อนจึงจะสามารถจัดส่งได้ ซึ่งเราแนะนำให้โทรไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะคุณอาจต้องรอนาน เนื่องจากมีคนโทรเข้าไปเยอะและทางบริษัทก็มีจำนวนรอบการขนส่งที่จำกัด

หลังจากตรวจสอบเบอร์โทรและเวลาทำการสำหรับ “การส่งพัสดุจากญี่ปุ่นไปต่างประเทศ” บนเว็บไซต์ของบริษัทเรียบร้อยแล้ว ให้คุณติดต่อทางโทรศัพท์ไปเพื่อแจ้งชื่อของประเทศปลายทาง และบอกจำนวนกับสิ่งของที่บรรจุอยู่ภายในให้พนักงานได้รับทราบ จากนั้นคุณก็จะได้รับตารางนัดหมายที่บริษัทจะเข้ามารับพัสดุที่บ้าน เมื่อกรอกใบจัดส่งและยื่นให้พนักงานเรียบร้อยแล้ว ก็ชำระเงินกับพนักงานและบอกลาพัสดุของคุณได้เลย!

Kuroneko Yamato

อีกตัวเลือกหนึ่ง คือ คุณสามารถขอใบจัดส่งล่วงหน้าได้ที่ออฟฟิศ Kuroneko Yamato สาขาใกล้บ้าน นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเนื่องจากการกรอกใบจัดส่งประเภทนี้มักใช้เวลามากกว่าปกติ แถมยังมีรายละเอียดเฉพาะเจาะจงมากมาย เช่น วัสดุที่ใช้ น้ำหนักและความสูงของสิ่งที่อยู่ในพัสดุ การส่งของผ่านออฟฟิศโดยตรงยังช่วยให้คุณได้รับส่วนลด 100 เยนอีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้น คุณก็ยังต้องโทรไปเพื่อยืนยันก่อนการส่งอยู่เหมือนเดิม

น้ำหนัก : ไม่เกิน 25 กิโลกรัม
ขนาด : ยาว x กว้าง x สูง รวมกันไม่เกิน 160 เซนติเมตร
ราคา : คิดตามประเทศ ขนาดและน้ำหนัก
● ตัวอย่าง : ค่าส่งพัสดุไปสหรัฐอเมริกา (ในกรณีที่น้ำหนักไม่เกิน 2 กก. ขนาดยาว x กว้าง x สูง รวมกันไม่เกิน 60 ซม.) จะอยู่ที่ 2,750 เยน

การส่งของจากประเทศอื่นมาญี่ปุ่น

Pen and clipboard on package with world map underneath

สำหรับการส่งของไปญี่ปุ่น วิธีที่ดีที่สุด คือ ควรตรวจสอบจากบริการขนส่งของประเทศคุณโดยตรง ทั้งในเรื่องของค่าส่ง ข้อจำกัดในการส่ง และลักษณะพิเศษต่างๆ อย่างไรก็ตาม การส่งของอย่างอาวุธปืนและยาเสพติดไปญี่ปุ่นจัดว่าเป็นสิ่งต้องห้ามของทางศุลกากรและผิดกฎหมายในประเทศญี่ปุ่น จึงควรตรวจสอบให้ดีอีกครั้งที่นี่

ไม่ว่าพัสดุของคุณจะใช้เวลาเดินทาง 2 วันหรือ 20 วัน การที่ต้องรอคอยจนกว่าจะได้รู้ว่าของนั้นไปถึงแล้วก็สามารถก่อให้เกิดความตึงเครียดได้ เพราะฉะนั้น เพื่อเพิ่มโอกาสให้พัสดุของคุณไปถึงได้ไวและปลอดภัยขึ้น ควรตรวจสอบที่อยู่และเบอร์ติดต่อบนพัสดุให้แน่ใจทุกครั้งไม่ว่าปลายทางจะเป็นที่ใดก็ตาม และหากจำเป็น ก็ควรระบุรายละเอียดกับมูลค่าของสิ่งของที่อยู่ภายในให้ชัดเจนเท่าที่จะทำได้ แน่นอนว่าการแพ็กให้แน่นหนาทั้งภายในและภายนอกด้วยเทปกาวและวัสดุกันกระแทกก็สามารถช่วยได้เช่นกัน นอกจากนี้ อย่าลืมว่าบางตัวเลือกก็ไม่มีให้บริการเนื่องจากข้อจำกัดทางภูมิภาค อย่าลืมว่าคุณควรสอบถามจากบริการส่งของในพื้นที่ของคุณก่อนเป็นอันดับแรก

สรุป

ตอนนี้คุณพร้อมจะไปยังที่ทำการไปรษณีย์ หลังจากที่ผลัดวันประกันพรุ่งมานานหรือยัง? เราหวังว่าคู่มือฉบับนี้จะช่วยคุณได้ไม่มากก็น้อย หากคุณมีข้อสงสัยอะไรเพิ่มเติม ก็สามารถสอบถามจากทางบริษัทขนส่งโดยตรงได้เลยนะ นอกจากนี้ ในกรณีที่คุณกำลังรอของอยู่ในญี่ปุ่นแล้วเกิดคลาดกับคนส่งพัสดุเข้า ก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะคุณสามารถขอจัดส่งใหม่ได้ง่ายๆ เลย!

Title image credit: Africa Studio / Shutterstock.com

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊กได้เลย !

หากคุณอาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้วกำลังอยู่ในช่วงหางานหรืออยากเปลี่ยนงานพอดี ตอนนี้เรามีเว็บไซต์หางานโดยเฉพาะที่เรียกว่า tsunagu Local Jobs แล้วนะ! นอกจากจะมีรายชื่องานสุดพิเศษที่หาจากที่ไหนไม่ได้แล้ว เรายังได้คัดกรองมาให้คุณแล้วด้วยว่างานทั้งหมดนี้ล้วนเป็นงานดีมีคุณภาพและเป็นมิตรกับชาวต่างชาติ นอกจากนี้ หากคุณสมัครและสร้างแอคเคาท์บนเว็บไซต์ ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์จากทีมให้บริการของเราซึ่งจะเป็นพนักงานจากหลายประเทศมาคอยช่วยเหลือให้คุณหางานที่เหมาะสมกับทักษะของตัวเองในญี่ปุ่นได้ อย่าลืมเข้าไปดูกันด้วยนะ!

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

Oyraa
1 Shares: