ทุกเรื่องที่ต้องรู้ในการขึ้นรถไฟญี่ปุ่น! มารยาท วิธีซื้อตั๋ว ภาษาญี่ปุ่นควรรู้

ขึ้นรถไฟญี่ปุ่น
รถไฟเป็นหนึ่งในการเดินทางที่มีความสำคัญที่สุดสำหรับการใช้ชีวิตในญี่ปุ่น ดังนั้น ในบทความนี้ เราจะพาไปดูวิธีการซื้อตั๋ว มารยาทการใช้รถไฟ ไปจนถึงภาษาญี่ปุ่นที่น่าจะมีประโยชน์เวลามีปัญหากับเจ้ารถไฟนี่กันเลยค่ะ!
Oyraa

รถไฟเป็นหนึ่งในการเดินทางที่มีความสำคัญที่สุดสำหรับการใช้ชีวิตในญี่ปุ่น ดังนั้น ในบทความนี้ เราจะพาไปดูวิธีการซื้อตั๋ว มารยาทการใช้รถไฟ ไปจนถึงภาษาญี่ปุ่นที่น่าจะมีประโยชน์เวลามีปัญหากับเจ้ารถไฟนี่กันเลยค่ะ! หวังว่าความรู้เหล่าจะมีประโยชน์กับทุกๆ คนยามที่ต้องขึ้นรถไฟนะคะ!

แนะนำแอพเช็คตารางเวลา!

ประเทศญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่วงการรถไฟก้าวหน้ามากๆ ในระดับโลก แม้ว่าจะมีประโยชน์มาก แต่สิ่งที่ตามมาก็คือสายรถไฟจำนวนมากที่อาจทำให้ชาวต่างชาติที่มาเที่ยวญี่ปุ่นหรือเพิ่งอาศัยในญี่ปุ่นถึงขั้นงงได้ ถึงขนาดที่มองว่าสายรถไฟญี่ปุ่นนี่เข้าใจยากจัง! ดังนั้นเครื่องมือที่จะช่วยบรรเทาสถานการณ์นี้ ก็คือแอพพลิเคชันดูตารางรถไฟนั่นเอง

หากกดเลือกสถานีเริ่มต้น (出発駅) และสถานีปลายทาง (目的駅) แล้ว แอพก็จะเลือกเส้นทางที่ใกล้ที่สุด หรือเส้นทางที่เหมาะสมที่สุดให้ดู รวมไปถึงบอกเวลาที่คุณต้องไปขึ้นรถไฟเพื่อให้ไปทันเวลานัดอีกด้วย มีประโยชน์สุดๆ ไปเลยค่ะ!

ที่ญี่ปุ่น นิยมใช้ 3 แอพนี้ค่ะ

▼Jorudan

https://www.jorudan.co.jp/norikae/ (ภาษาญี่ปุ่น)

https://world.jorudan.co.jp/mln/en/?sub_lang=nosub (ภาษาอังกฤษ)

▼Navitime

https://www.navitime.co.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)

▼Yahoo!

https://transit.yahoo.co.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)

วิธีซื้อตั๋วรถไฟ

การขึ้นรถไฟในญี่ปุ่นมีวิธีซื้อตั๋ว 2 แบบค่ะ อย่างแรกก็คือไปกดตู้ซื้อตั๋ว กับอย่างที่สองก็คือการใช้บัตร IC ค่ะ

เรามาดูวิธีการซื้อตั๋วจากตู้กันก่อน

1. หาตู้จำหน่ายตั๋วที่ใกล้กับประตูทางเข้าสถานี

สามารถซื้อตั๋วรถไฟที่ตู้จำหน่ายตั๋วใกล้ๆ กับประตูทางเข้าสถานีได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม ตู้ที่สามารถซื้อได้จะต้องมีคำว่า Kippu (きっぷ) ในกรอบสีแดง ซึ่งแปลว่า ตั๋วโดยสาร อย่างด้านบนขวาในภาพนะคะ ทางซ้ายจะเขียนว่า Cha-ji Senyou (チャージ専用) ซึ่งหมายถึงการเติมเงินเข้าบัตร IC ค่ะ ต้องระวังกันด้วยนะคะ

2. กดเลือกปุ่ม “ซื้อตั๋ว” หรือ Kippu (きっぷ)

ขั้นแรกก็กดคำว่า Kippu (きっぷ) ที่แปลว่า “ตั๋ว” บนหน้าจอตู้จำหน่ายตั๋วเลยค่ะ ตามบริษัทรถไฟแล้ว ด้านขวาบนของจอมักจะเป็นปุ่มเปลี่ยนภาษา ถ้าใครไม่มั่นใจในภาษาญี่ปุ่นก็เปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษได้เลย

3. เลือกราคาตั๋ว

เมื่อกดเลือกปุ่ม Kippu (きっぷ) แล้ว จะมีค่าโดยสารหน้าตาอย่างในภาพโผล่ขึ้นมาค่ะ คุณก็เพียงเช็คราคาจากเส้นทางรถไฟในแผนที่ภาพเหนือตู้จำหน่ายตั๋ว แล้วก็เลือกราคาที่คุณต้องใช้เลยค่ะ

4. ชำระเงิน

เมื่อกดเลือกราคาเรียบร้อยแล้ว เพียงใส่เงินในช่องรับเงิน ตั๋วก็จะออกมาแล้วค่ะ หากมีเงินทอนก็อย่าลืมหยิบมานะ! บริษัทรถไฟบางแห่งก็สามารถจ่ายได้ด้วยบัตรเครดิต นอกจากนี้ แม้แต่ในกรณีที่ตู้ไม่รับบัตรเครดิต คุณก็สามารถไปที่ช่องจำหน่ายตั๋วโดยสารแล้วซื้อตั๋วด้วยบัตรเครดิตได้อยู่ดี! ดังนั้น หากอยากจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตมากกว่า ก็ลองถามนายสถานีดูได้เลยค่ะ

วิธีการใช้บัตร IC 

Flickr:BT Image

บัตรที่นิยมใช้ในโตเกียวและรอบๆ มักจะเป็นบัตร PASMO หรือบัตร SUICA ค่ะ หากเป็นแถบคันไซ ก็จะเป็นบัตร ICOCA แทนค่ะ นอกจากนี้ในภูมิภาคอื่นๆ ก็ยังมีบัตรชนิดอื่นๆ ด้วย หากคุณเติมเงินเข้าไปในบัตร IC ก่อน ก็จะช่วยลดขั้นตอนในการซื้อตั๋วรถไฟแต่ละเที่ยวค่ะ นอกจากนี้ เงินบัตร IC ยังใช้เป็นเงินดิจิตอลได้ ดังนั้น คุณสามารถจ่ายเงินด้วยการแตะบัตร IC ได้ ไม่ว่าจะเป็นตามร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือแม้แต่ตู้จำหน่ายของอัตโนมัติ! คุณสามารถซื้อบัตร IC ได้ที่ตู้จำหน่ายตั๋วหรือว่าช่องจำหน่ายตั๋วก็ได้ค่ะ ตอนซื้อบัตรจะต้องมีเงินมัดจำ 500 เยนนะคะ

1. เติมเงินบัตร IC ที่ตู้จำหน่ายตั๋ว

การเติมเงินในบัตร IC ก็ทำเหมือนกับการซื้อตั๋วที่ตู้ได้เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นตู้ด้านซ้ายหรือขวา ก็สามารถเติมเงินได้เช่นกันค่ะ

2. เสียบบัตร IC เข้าไปในช่อง หรือวางบัตรบนบริเวณที่กำหนด

แบบวางบัตร
แบบเสียบบัตร Photo:PIXTA

ช่องวางบัตร IC จะต่างกันไปตามแต่ละตู้ค่ะ มีทั้งแบบวางบัตรและแบบเสียบบัตรเลย หากเป็นแบบวางบัตร ก็วางค้างไว้เช่นนั้นจนเติมเงินเรียบร้อยเลยค่ะ

3. เลือกจำนวนเงินที่ต้องการเติม

เมื่อวางบัตรหรือเสียบบัตรเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีหน้าจอให้เลือกจำนวนเงินเหมือนในภาพด้านบนขึ้นมาค่ะ คุณสามารถเช็คยอดเงินคงเหลือในบัตรได้ด้วย ดังนั้นก็เลือกจำนวนเงินที่อยากเติมเพิ่มเข้าไปได้เลย บางตู้ก็สามารถเติมได้ยันหลัก 10 เยนเลยค่ะ เมื่อเลือกจำนวนเงินที่ต้องการแล้ว ก็ใส่เงินเข้าไป เพียงเท่านี่ก็เติมเงินเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ

วิธีการเข้าสถานี

ประตูตรวจตั๋วที่ใช้ได้ทั้งตั๋วโดยสารและบัตร IC  Photo:PIXTA
ประตูตรวจตั๋วที่ใช้ได้เฉพาะบัตร IC Photo:PIXTA

เมื่อเตรียมตั๋วโดยสารหรือบัตร IC พร้อมแล้ว ก็เดินไปที่ประตูเพื่อเข้าชานชาลาได้เลยค่ะ

ประตูสำหรับตรวจบัตรโดยสารที่ญี่ปุ่นมีทั้งแบบที่สามารถใช้ได้ทั้งตั๋วโดยสารและบัตร IC และแบบที่สามารถใช้ได้แค่บัตร IC ตามในภาพเลยค่ะ 

สำหรับประตูที่สามารถใช้ได้ทั้งตั๋วโดยสารและบัตร หากเป็นบัตร IC ให้แตะไปที่บริเวณที่วงสีแดงไว้ในภาพด้านบน หากเป็นตั๋วให้เสียบเข้าไปในบริเวณที่วงสีฟ้าไว้ในภาพด้านบนค่ะ (รายละเอียดอยู่ถัดไปค่ะ)

▼การใช้ตั๋วโดยสารเข้าสถานี

Photo:PIXTA

เมื่อคุณเสียบตั๋วเข้าไปในเครื่อง ตั๋วจะถูกกลืนเข้าไปโดยอัตโนมัติและประตูจะเปิดออกค่ะ หากตั๋วมีรอยขีดข่วนหรือว่าหักงอ เครื่องอาจจะคืนตั๋วออกมาได้ หากเป็นเช่นกัน ให้คุณเดินไปหานายสถานีที่อยู่บริเวณนั้น หรือถ้าไม่มีช่องให้สอบถามจริงๆ ก็กดอินเตอร์โฟนใกล้ๆ แล้วอธิบายสถานการณ์ได้เลยค่ะ

เมื่อใส่ตั๋วเข้าไปแล้ว ตั๋วจะออกมาจากประตูอีกฝั่ง ก็อย่าลืมเก็บตั๋วไว้นะคะ เพราะตอนออกจากสถานีปลายทาง คุณจะต้องใช้ตั๋วนั้นอีกครั้งค่ะ ดังนั้นเก็บรักษาให้ดี อย่าทำหายนะคะ! อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณออกจากสถานี ตั๋วจะไม่คืนออกมาแล้วนะคะ

▼การใช้บัตร IC เข้าสถานี

Photo:PIXTA

การใช้บัตร IC ก็ทำได้ง่ายๆ แค่เพียงแตะบัตรลงไปบริเวณที่อ่านบัตรค่ะ เมื่อแตะแล้วมีเสียง ปิ๊ด ออกมา ประตูก็จะเปิดออกค่ะ เมื่อถึงสถานีปลายทางก็ทำเช่นเดิมเลยค่ะ หากยอดเงินในบัตรไม่พอหรือตัวเซ็นเซอร์อ่านบัตรมีปัญหา เครื่องจะร้องว่ามีปัญหาและประตูจะไม่เปิดค่ะ

กรณีที่ออกจากประตูไม่ได้ เนื่องจากยอดเงินไม่เพียงพอ…

Photo:PIXTA

หากยอดเงินคงเหลือในบัตรของคุณไม่พอ หรือเปลี่ยนเส้นทางเดินกระทันหันทำให้ตั๋วที่ซื้อมามีมูลค่าไม่พอ คุณสามารถเพิ่มเงินได้ที่ตู้เติมเงินและปรับราคา ซึ่งมักตั้งอยู่ใกล้ๆ กับประตูทางออกได้เลยค่ะ เมื่อจัดการเงินกับตู้เรียบร้อยแล้ว ก็จะสามารถออกจากสถานีได้แล้วค่ะ

ภาษาญี่ปุ่นที่มีประโยชน์ในสถานีและในรถไฟ มีอะไรบ้างนะ?

Photo:PIXTA

・สามารถซื้อตั๋วได้ที่ไหนคะ/ครับ
切符はどこで買えますか?
(kippu wa dokode kaemasuka?)

・กรุณาบอกวิธีซื้อตั๋วหน่อยได้ไหมคะ/ครับ
切符の買い方を教えてください。
(kippu no kaikata wo oshiete kudasai)

・สามารถไปสถานี〇〇ได้อย่างไรคะ/ครับ
〇〇駅に行きたいのですが、どうやって行けばいいですか?
(〇〇eki ni ikitainodesuga douyatte ikeba iidesuka?)

・รถไฟคันนี้ไปสถานี〇〇ไหมคะ/ครับ
この電車は〇〇駅へいきますか?
(kono densha wa 〇〇eki e ikimasuka?)

・อีกกี่สถานีถึงสถานี〇〇คะ/ครับ
〇〇駅までは、あと何駅ですか?
(〇〇eki made wa ato nan eki desuka?)

・ประตู〇〇อยู่ที่ไหนคะ/ครับ
〇〇口はどこですか?
(〇〇guchi wa doko desuka?)

มารยาทในการขึ้นรถไฟ 8 อย่าง

1. ไม่รับประทานอาหารและเครื่องดื่มบนรถไฟ

Photo:PIXTA

หากเป็นลูกอม หมากฝรั่ง หรือน้ำดื่มที่ช่วยบรรเทาอาการลมแดด ก็ถือเป็นสิ่งที่ยังพอรับได้ค่ะ แต่การรับประทานอาหารบนรถไฟอาจทำให้เกินกลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือทำให้รถไฟสกปรกได้ ดังนั้นไม่ควรรับประทานอาหารและเครื่องดื่มบนรถไฟค่ะ 

2. สูบบุหรี่ในบริเวณพื้นที่สูบบุหรี่เท่านั้น

Photo:PIXTA

ภายในสถานีและรถไฟนั้นห้ามสูบบุหรี่ค่ะ บางสถานีอาจมีบริเวณสูบบุหรี่ได้ ดังนั้น หากอยากสูบบุหรี่ก็กรุณาสูบในที่ที่จัดไว้เท่านั้นค่ะ

3. เข้าแถวเวลาขึ้นรถไฟ

Photo:PIXTA
Photo:PIXTA

ญี่ปุ่นซีเรียสกับการต่อแถวขึ้นรถไฟมากๆ ค่ะ เมื่อรอรถไฟบนสถานี ก็รอในบริเวณที่มาร์กเอาไว้ ไม่ข้ามเส้นที่สถานีขีดกั้น แล้วก็ยืนรอเป็นแถวค่ะ

4. ให้คนลงก่อน

Photo:PIXTA

เมื่อรถไฟมาถึงแล้ว อันดับแรกต้องให้คนในขบวนลงมาก่อนแล้วเราถึงจะขึ้นค่ะ ตามมารยาทแล้วให้ยืนเยื้องไปข้างๆ หน่อย ไม่ยืนขวางหน้าประตูนะคะ

5. ให้ที่นั่งพิเศษกับผู้ที่ต้องการ

Photo:PIXTA

ในรถไฟทุกๆ คัน จะมีที่นั่งพิเศษอยู่ค่ะ ที่เหล่านี้ให้สำหรับผู้สูงอายุ หรือผู้พิการ รวมไปถึงสตรีมีครรภ์ค่ะ ดังนั้น ก็ต้องยกที่นั่งให้กับบุคคลเหล่านี้ค่ะ ไม่ใช่ว่าเราจะนั่งที่นั่งพิเศษไม่ได้นะคะ สามารถนั่งได้แต่หากมีผู้อื่นที่ควรได้นั่งมายืนใกล้ๆ ก็ควรให้ที่นั่งค่ะ

6. สังเกตตู้รถไฟสำหรับผู้หญิง

Photo:PIXTA

ในบางช่วงเวลา (แตกต่างไปตามบริษัทรถไฟ) จะมีตู้รถไฟสำหรับผู้หญิงค่ะ หากบริเวณที่ยืนรอมีสัญลักษณ์ว่า ตู้สำหรับผู้หญิง (女性専用者) ก็จงระวังไว้ค่ะ ตามปรกติแล้ว ช่วงเวลาเร่งด่วนของวันธรรมดา ที่คนต้องไปทำงานและไปเรียนหนังสือ (ช่วง 7 โมงเช้าถึงช่วงก่อน 10 โมงเช้า) จะเป็นเวลาที่มีตู้ผู้หญิงค่ะ เด็กผู้ชายชั้นประถมศึกษาหรือเด็กกว่าและผู้ดูแลอาจจะเป็นข้อยกเว้นค่ะ

7. ไม่ส่งเสียงดังบนรถไฟ

Photo:PIXTA

ปิดเสียงโทรศัพท์และไม่คุยโทรศัพท์บนรถไฟนะคะ ใช้เสียงดังพูดคุยก็ควรเลี่ยงค่ะ นอกจากนี้ การกระทำที่อาจทำให้ผู้โดยสารท่านอื่นเดือดร้อนก็ต้องหลีกเลี่ยงค่ะ

8. เดินชิดซ้าย

Photo:PIXTA

ภายในสถานีจะมีกฎอยู่ว่าให้คนเดินชิดซ้ายค่ะ เนื่องจากในหลายๆ สถานีมีคนจำนวนมากใช้บริการ ดังนั้นเราจึงต้องรักษามารยาทในข้อนี้เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้จากการชนกันค่ะ

รถไฟเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันของชาวญี่ปุ่น อย่าลืมจดจำมารยาทและข้อพึงปฏิบัติสำหรับการขึ้นรถไฟที่เราแนะนำไว้ให้ดี จะได้ขึ้นรถไฟญี่ปุ่นแบบเซียนๆ กันนะคะ!

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊กได้เลย !

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

Oyraa
0 Shares: